เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(ปปท.) ให้สัมภาษณ์ถึงคำสั่งของคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ 33/2559 เรื่อง ให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่น เพื่อย้ายข้าราชการ 23 ราย ว่า จากนี้การทำงานของศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.)ก็จะรวบรวมข้อมูลของทั้ง 23 ราย เพื่อส่งให้ต้นสังกัดดำเนินการ และจะรวบรวมข้อมูลเพื่อส่ง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธาน ศอตช.เพื่อดำเนินการพิจารณาด้วย อย่างไรก็ตามที่ถูกย้ายทั้งหมดเนื่องจากละเลย ไม่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่จนมีผู้เข้ามาร้องเรียน และการใช้ม.44 ของหัวหน้าคสช.ครั้งนี้ เป็นการกระตุ้นข้าราชการให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพราะถ้าไม่ทำก็ถือว่ามีความผิด และผู้บังคับบัญชาก็ต้องเข้ามาดูแล ตรงนี้คือหลักการที่ยั่งยืน ซึ่งนายกรัฐมนตรีสั่งศอตช.ให้ดำเนินการตามหลักดังกล่าว โดยจากนี้ทางคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(คตช.) ก็ต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบ คู่ขนานไปด้วยก่อนที่จะส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันตามที่ประกาศ แล้วต้องรายงานกลับมาที่คตช.อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้งหมดมีความผิดใด นายประยงค์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาว่าจะตรวจสอบพบความผิดอย่างไรระดับไหน ถ้ามีความผิดทางวินัยก็ต้องดำเนินการเอาโทษตามขั้นตอนของระเบียบ แต่ถ้าไม่พบความผิดก็ต้องคืนตำแหน่งให้ตามระเบียบเช่นกัน
