เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดกระแสการแชร์ภาพและข้อความจากเฟซบุ๊คด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเป็นคำกล่าวของนายสุจิตต์ วงษ์เทศ คอลัมนิสต์ชื่อดังในเครือ “มติชน” ซึ่งเป็นผู้ค้นคว้าและเรียบเรียงหนังสือเกี่ยวกับสุนทรภู่เป็นจำนวนมาก
นายสุจิตต์ ระบุว่า สุนทรภู่ไม่ได้มีอาชีพเป็นกวี เพราะในยุคต้นรัตนโกสินทร์ ยังไม่มีอาชีพกวี ในความหมายที่อาชีพคือการหารายได้เลี้ยงปากท้อง เนื่องจากคนในยุคนั้นส่วนใหญ่ยังอ่านหนังสือไม่ออก จึงไม่สามารถยึดเป็นอาชีพได้ อาชีพที่แท้จริงของสุนทรภู่คือรับราชการเป็น “อาลักษณ์” คือ ร่างเอกสารสำคัญต่างๆของราชสำนัก ส่วนกวี เป็นสิ่งที่คนยุคหลังยกย่อง ไม่ได้เป็นอาชีพ
ข้อความมีดังนี้
“สุนทรภู่ไม่ได้มีอาชีพเป็นกวี เพราะกวีในยุคนั้นยึดเป็นอาชีพไม่ได้ ที่เราพูดๆกันว่าสุทรภู่เป็นกวีนี่เรายกย่องเขาทีหลัง
ที่จริงแล้ว สุนทรภู่มีอาชีพรับราชการ
เป็นขุนนางผู้ใหญ่ในราชสำนักรัชกาลที่ 2 มีฐานะทางสังคมสูงในระดับนักปราชญ์หรือศาสตราจารย์ประจำราชสำนัก
เป็นที่ปรึกษาหรือองคมนตรี
เป็นผู้ร่างเอกสารสำคัญของราชสำนักAdvertisementอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ ยกย่องสุนทรภู่เป็น “มหากวีกระฎุมพี” เป็น “อาลักษณ์นักเลงทำเพลงยาว” และเป็นศาสตราจารย์นักปราชญ์ราชสำนัก “ปัญญาชน” ฝ่ายก้าวหน้า ที่ฝักใฝ่อยู่กับเจ้าฟ้ามงกุฎ (พระนามเดิมของรัชกาลที่ 4) กับเจ้าฟ้าน้อย (พระนามเดิมของพระปิ่นเกล้าฯ) ทั้ง 2 พระองค์ ทรงเป็นราชโอรสของรัชกาลที่ 2
ส่วนงานกวีนิพนธ์เป็นความสามารถส่วนตัว”
นอกจากนี้ ยังระบุว่า ตนพูดเรื่องนี้ทุกปี และปีนี้ก็พูดอีกเช่นกัน
หลังจากข้อความเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้แชร์ต่อและแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก นับร้อยความเห็น ส่วนหนึ่งเชื่อตามนายสุจิตต์ และบอกว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยฉุกคิดมาก่อน แต่อีกส่วนหนึ่งระบุว่ายังไม่เชื่อ เพราะหนังสือเรียนระบุไว้เช่นนั้น