| ที่มา | มติชนรายวัน คอลัมน์ เครื่องแนม |
|---|
สารภาพว่าเป็นโรคเสพติดไส้กรอก โดยเฉพาะเมื่อต้องออกต่างจังหวัด ต้องแวะปั๊มรองท้องก่อนเป็นอันดับแรก
กระทั่งล่าสุดเมื่อมีการเปิดเผยถึงผลิตภัณฑ์ไส้กรอกยี่ห้อใดมีสารไนเตรต (ต้องไม่เกิน 50 มก.ต่ออาหาร 1 กก.) สารไนไตรต์ (ไม่เกิน 125 มก.ต่ออาหาร 1 กก.) จึงต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกินในระดับหนึ่ง
ว่ากันตามจริงไม่ใช่แค่ไส้กรอก ยังมีในผลิตภัณฑ์หมวดหมู่เดียวกันคือ แฮม โบโลน่า กุนเชียง
ผศ.ดร.ปรัญรัชต์ ธนวิยุทธ์ภัคดี อาจารย์สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่า เพราะไนเตรต, ไนไตรต์ เป็นสารที่ใช้ในอาหารเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม ถ้ากินบ่อยๆ โอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งก็สูงขึ้น
เนื่องจาก ไนเตรต, ไนไตรต์ เมื่ออยู่ในกระเพาะอาหารจะเปลี่ยนเป็นไนตรัส แล้วจะทำปฏิกิริยากับ “เอมีน” ที่มีอยู่ในโครงสร้างของโปรตีนในเนื้อสัตว์ กลายเป็น ไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง
แล้วจะป้องกันอันตรายของไนเตรต, ไนไตรต์ได้อย่างไร?
นอกจากไม่กินบ่อยจนเกินไปแล้ว สิ่งสำคัญคือ ต้องกิน “อาหารที่มีวิตามินซี” คือผักผลไม้ร่วมด้วย เพราะจะช่วยให้กระบวนการเปลี่ยนไนเตรตเป็นไนไตรต์จะลดลงได้ในระดับหนึ่ง
คราวหน้าสั่งไส้กรอก ต้องไม่ลืมคีบผักหอม มะเขือเทศ หอมใหญ่ ใส่ไปด้วยเป็นดีที่สุด
