มือมืดเพื่อนอธิบดีป่าไม้ ไลน์ป่วน ป้องคนขับรถอ้างแค่เมาหัวซุกผ้าห่มหลับ ตั้งกก.สอบไม่คืบ

กรณีที่เกิดเหตุความไม่เหมาะสมในกรมป่าไม้ โดยนาย อ. พนักงานราชการ ตำแหน่งพนักงานขับรถ สำนักวิจัย กรมป่าไม้ เมาสุรา และได้เข้ากระทำการลวนลาม หมายจะล่วงละเมิดทางเพศข้าราชการสาว ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติงานที่ศูนย์เพาะพันธุ์กล้าไม้ จ.สระบุรี แต่โชคดีที่ข้าราชการสาวคนดังกล่าวหนีได้ทัน อย่างไรก็ตาม เมื่อจะไปแจ้งความดำเนินคดีกลับถูกหัวหน้างานที่เป็นผู้หญิง และเป็นรุ่นพี่จากคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เหมือนกัน ห้ามไม่ให้แจ้งความ โดยบอกว่ากลัวกรมป่าไม้จะเสื่อมเสีย และจะจัดการย้าย นาย อ. ออกไปเอง โดยข่าวดังกล่าวสร้างความโกรธแก่ข้าราชการการ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่จบมาจากคณะวนศาสตร์ ซึ่งเห็นใจในตัวข้าราชการหญิงที่เป็นรุ่นน้อง

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเผยแพร่ข้อความเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดเหตุความไม่เหมาะสมภายในกรมป่าไม้ขึ้นมา โดยข้อความดังกล่าวนี้ออกมาจากไลน์กรุ๊ปของห้องศิษย์เก่าคณะวนศาสตร์ รุ่น 43 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับนายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ข้อความดังกล่าวระบุว่า

“ขอรายงานเรื่องข้าราชการป่าไม้หญิงถูกคุกคามทางเพศ ตามที่สื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับข้าราชการป่าไม้หญิงถูกคุกคามทางเพศ และเห็นพ้องกันว่าผู้บังคับบัญชาเบื้องต้นไม่ปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชา แต่เห็นแก่ภาพลักษณ์ขององค์การมากกว่านั้น จากการศึกษาข้อเท็จจริงพบว่าเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นมากว่า 1 เดือนแล้ว โดยกลุ่มข้าราชการหญิงดังกล่าวจำนวน 4 คน และพนักงานขับรถชายที่เป็นชาย 1 คน โดยมีข้าราชการตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษเป็นหัวหน้า ไปศึกษาเก็บข้อมูลงานวิจัยที่พุแค จ.สระบุรี และเข้านอนพักที่ศูนย์พฤกษศาสตร์ พุแค ที่พักเป็นบ้านพักมี 2 ห้อง โดยนักวิชาการป่าไม้หญิงอาวุโส 2 คนนอนอยู่ห้องหนึ่ง ส่วนอีกห้องหนึ่งมีนักวิชาการป่าไม้หญิง 2 คน กับคนขับรถรวม 3 คนนอนอยู่ร่วมกัน ซึ่งระหว่างอาหารเย็นทีมงานมีการดื่มสุราและเบียร์กันจนเมา ต่างแยกย้ายกันไปนอน โดยขับรถชายเข้านอนทีหลัง เมื่อข้าราชการหญิงตื่นขึ้นมาตอนเช้าพบว่าพนักงานขับรถชายเมานอนฟุบอยู่ปลายเตียงโดยมีหัวซุกอยู่ในผ้าห่ม จึงโวยวายขึ้น เมื่อพนักงานขับรถชายคนดังกล่าวตื่นขึ้นมาก็แสดงอาการงวยงงจากอาการเมาค้าง และจากการถูกต่อว่าจากข้าราชการหญิงคนดังกล่าว ซึ่งพนักงานขับรถก็แสดงอาการขอโทษและบอกว่าตนเองเมาไม่รู้ตัว และก็ไม่ได้ทำเรื่องเสื่อมเสียใดๆ ต่อมาเมื่อข้าราชการกลุ่มดังกล่าวกลับมาจากราชการ ก็นำเรื่องนี้มาเล่าให้หัวหน้ากลุ่มรับทราบ ซึ่งหัวหน้ากลุ่มก็เรียกมาปรับความเข้าใจกัน เพราะทุกคนบอกว่าไม่มีเรื่องเสื่อมเสียเกิดขึ้น แต่เมื่อข้าราชการหญิงคนดังกล่าวไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง และขอย้ายตนเองไปอยู่สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า ซึ่งผู้อำนวยการสำนักไปเล่าให้นายสมัคร (ดอนนาปี อดีตผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเกษียณราชการไปแล้ว) ทราบ ก็กลายเป็นประเด็นใหญ่ผ่านสื่อขึ้นมาครับ หากพิจารณาแล้วจะพบว่าเรื่องแต่แรกมิได้เป็นประเด็นปัญหาใหญ่โตอะไร แต่เมื่อมีการสร้างข่าวขึ้นมาให้ดูน่ากลัว ข้าราชการคนดังกล่าวก็เสียหายและถูกรุมโทรมจากกระแสสังคมไปเรียบร้อยแล้วครับ ซึ่งคนที่ออกมาปล่อยข่าวเพื่อให้ตนเองโด่งดังในกระแสสังคมควรรับผิดชอบเรื่องนี้หรือไม่?” ก็ขอถือโอกาสนี้ชี้แจงการบิดเบือนโง่ ๆ ของคนบางคนครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกี่ยวกับข้อความดังกล่าวนี้ มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากว่า ผู้ใหญ่จากสำนักวิจัย กรมป่าไม้ ต้องการจะปกป้อง ทั้งนาย อ. ที่เป็นผู้กระทำผิด และหัวหน้างานของข้าราชการสาวคนดังกล่าวหรือไม่ พร้อมกับมีการเรียกร้องให้นายชลธิศลงโทษผู้กระทำผิดโดยเร็ว ทั้งนาย อ.และหัวหน้างานของข้าราชการสาว

Advertisement

ทั้งนี้ นายสมัคร ดอนนาปี อดีตผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ศิษย์เก่าคณะวนศาสตร์ และที่ปรึกษาสมาคมอุทยานแห่งชาติ ได้กล่าวถึงข้อความดังกล่าว ซึ่งมีการพาดพิงถึงตัวเองว่า เห็นข้อความนี้เมื่อคืนที่ผ่านมา ขอชี้แจงว่าตนกับผู้อำนวยการสำนักป้องกันฯ ไม่ได้สนิทสนม และไม่เจอกันนานแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้อำนวยการสำนักป้องกันจะเล่าเรื่องนี้ให้ตนทราบ และสามารถสอบถามกับเจ้าตัวได้ ส่วนที่พยายามเขียนว่ามีการดื่มสุราจนเมามาย แต่ไม่มีอะไรเสียหาย ซึ่งตนมองว่าหัวหน้างานยิ่งผิดหนักเข้าไปอีก ไปปฏิบัติราชการแล้วปล่อยให้พนักงานขับรถดื่มสุรา ซึ่งจะไม่พร้อมในการปฏิบัติงานและอาจเกิดอันตรายกับทุกชีวิตบนรถได้ทุกเวลา อีกประการการจัดสรรที่พักแทนที่จะให้ข้าราชการหญิงทั้งหมดพักรวมกัน และพนักงานขับรถ (ซึ่งเป็นชาย) พักคนเดียว ก็ถือว่าผิดซ้ำสองยิ่งไม่น่าให้อภัยหนักเข้าไปอีก

“ที่บอกว่า ผมทำเพื่อความโด่งดัง ยิ่งไร้เหตุผล สิ่งที่ผมทำมาตลอดที่เป็นผู้บริหารกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรฯ และกรมอุทยานฯ ผลงานเป็นที่ประจักษ์ ไม่ว่าจะเรื่องการเพิกถอนโฉนดที่ดิน 2 แปลงบริเวณหาดฟรีด้อม การตรวจสอบและเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบในเขตอุทยานสิรินาถ พีพี ตะรุเตา การทวงคืนผืนป่า การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน สิรินาถ ฯลฯ รวมทั้งการเขียนเฟซแฉพฤติการณ์ทุจริตของข้าราชการระดับผู้บริหารหลายคน ก็การันตีความสุจริตใจของผมได้ รวมถึงกรณีข้าราชการหญิงถูกล่วงละเมิด ที่ความจริงคือมีความพยายามที่จะล่วงละเมิด แต่น้องเค้าต่อสู้ปกป้องศักดิ์ศรีตนเองไว้ได้ และต้องการให้มีการดำเนินการกับผู้ละเมิดตามระเบียบและกฏหมาย แต่หัวหน้ากลับเจรจาและใช้ความเป็นผู้บังคับบัญชาขัดขวางมิให้ดำเนินการ จนผมทราบเรื่องจากรุ่นน้องถึงพฤติการณ์นี้ จึงได้เขียนลงเฟซบุ๊ก เมื่อคืนวันที่ 20 มิถุนายน 2559 ขอความเป็นธรรมให้อธิบดีกรมป่าไม้ดำเนินการกับผู้ล่วงละเมิดและผู้บังคับบัญชาที่ปกปิดช่วยเหลือผู้ละเมิดทุกคน” นายสมัครกล่าว

นายสมัครกล่าวอีกว่า วันที่ 21 มิถุนายน ตนใช้ความพยายามสื่อสารทุกทางให้อธิบดีกรมป่าไม้ดำเนินการเรื่องนี้ ขณะเดียวกันผู้บังคับบัญชาของข้าราชการหญิงกลับเรียกตัวไปใช้อำนาจบังคับให้บอกอธิบดีว่าเป็นการเข้าใจผิด ขณะเดียวกันก็ให้พนักงานขับรถยนต์ไปขอโทษ รวมทั้งให้สัญญาว่าจะให้โยกย้ายไปอยู่ที่อื่น ที่ทุเรศก็คือพนักงานขับรถยนต์ที่เข้าไปขอโทษไม่มีอาการของคนสำนึกผิดแม้แต่น้อย ตรงข้ามยังทำคล้ายยิ้มเยาะเป็นนัยถากถาง คล้ายทำอะไรเขาไม่ได้เสียอีก ส่วนข้าราชการการหญิงวันนั้นต้องร้องไห้เพราะความเสียใจที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ แล้วยังต้องพูดปดช่วยเหลือคนที่ละเมิดตนเอง

Advertisement

“เรื่องนี้มันยิ่งกว่าโหดร้ายเสียอีก ส่วนกรณีส่งข้อความอันเป็นเท็จผ่านไลน์กลุ่มต่างๆ ที่พาดพิงผมนี้ ผมจะดำเนินการตามกฎหมายกับคนแรกที่เป็นผู้ทำเพื่อให้ร้ายผม ส่วนคนต่อๆ มา ขอกันไว้เป็นพยาน และผมขอยืนยันจะต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมต่อไป หากมีการบิดเบือนเพื่อช่วยเหลือผู้ผิดอีก ผมก็จะตามไปดูจนถึงที่สุด จึงขอชี้แจงมาเพื่อทราบโดยทั่วกันครับ” นายสมัครกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่นายชลธิศบอกว่าจะตั้งขึ้นมานั้น ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด และยังไม่มีการแต่งตั้งใครขึ้นมาทำหน้าที่นี้เลย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image