ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารนาวิกโยธิน จับกุมตัวสมาชิกกลุ่มสมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) พร้อมคนงานไทรอัมพ์รวม 13 คน ขณะแจกเอกสารรณรงค์ประชามติร่างรัฐธรรมนูญย่านนิคมบางพลี โดยตั้งข้อหาขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ชุมนุมเกิน 5 คน ต่อมามีการยื่นประกันตัวไป 6 คน ขณะนักศึกษา 7 คนไม่ขอประกันตัว นำโดยนายรังสิมันต์ โรม โดยขณะนี้ถูกควบคุมอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ
เมื่อเวลา 09.30 วันที่ 27 มิถุนายน ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังไม่มีกลุ่มเพื่อนประชาธิปไตยเข้าเยี่ยมแต่อย่างใด โดยทางเรือนจำมีกำหนดให้เข้าเยี่ยมในช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 08.00-11.30 น.ในช่วงเช้า และพักเยี่ยม ก่อนจะให้เข้าเยี่ยมอีกครั้งในรอบบ่ายเวลา 12.30-14.30 น. ขณะที่บริเวณหน้าเรือนจำมีกลุ่มผู้สื่อข่าวยังคงติดตามความเคลื่อนไหวอยู่บริเวณด้านหน้า โดยมี พ.ต.อ.สามารถ พรหมชาติ ผกก.สน.ประชาชื่น พ.ต.ท.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล รองผกก.สส.สน.ประชาชื่น และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ประชาชื่น วางกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย
ต่อมาเวลา 12.00 น. กลุ่มเพื่อนนักศึกษาเดินทางมาเพื่อจะเข้าเยี่ยม พร้อมทั้งถือลูกโป่งสีชมพู มา 7 ลูก เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัว เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณเรือนจำ ถูกเจ้าหน้าที่ห้ามเข้าไปภายใน จึงเดินทางกลับพร้อมลูกโป่ง ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มเพื่อนนักศึกษาอีกหลายคนที่พยายามถือลูกโป่งเดินเข้าไป แต่ถูกเจ้าหน้าที่กั้นไม่ให้เข้า และยึดลูกโป่งไว้จนเกิดการชุลมุนขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นกระเป๋าของกลุ่มนักศึกษาที่มีสติกเกอร์ ส่อว่าอาจขัดร่างกฎหมายประชามติ และตรวจยึดไว้ อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มนักศึกษาจะมีการรวมตัวอีกครั้งที่อนุสรณ์สถาน14 ตุลาคม เวลา18.00น.
เวลา14.00 น. น.ส.ชนกนันท์ ร่วมทรัพย์ และกลุ่มเพื่อนนักศึกษา มายืนที่บริเวณหน้าป้ายเรือนจำ เปิดเผยว่า วันนี้เข้าเยี่ยมเพื่อนที่ถูกคุมขัง ทุกคนมีกำลังใจดี แต่โดนรับน้องข้างใน ให้ทำความสะอาดเยอะมาก โดยนายรังสิมันต์ บอกว่า “เราถูกจองจำได้แต่ตัว แต่ใจเราเป็นประชาธิปไตย อยู่ข้างนอกข้างในก็ไม่แตกต่างกัน และถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่าน เป็นสิ่งชั่วร้ายสำหรับประเทศไทย”
พ.ต.อ.สามารถ เปิดเผยว่า ทราบว่าจะมีกลุ่มนักศึกษาเข้ามาเยี่ยมสามารถกระทำได้ แต่ขอร้องว่าห้ามใช้เครื่องขยายเสียง และทุกอย่างให้ใช้เวลาตามสมควร และห้ามกระทำการเชิงสัญลักษณ์ หากฝ่าฝืนจะจับกุม ในความผิดตามคำสั่งของ คสช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดสติกเกอร์จำนวน 80 ชิ้น และลูกโป่งรวม 100 ลูก ไว้ตรวจสอบตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่กลุ่มนักศึกษาเข้าเยี่ยมนายรังสิมันต์นั้น นายรังสิมันต์ได้พูดผ่านกลุ่มเพื่อน โดยกลุ่มเพื่อนได้จดเป็นจดหมายน้อยรวม 3 ฉบับ เพื่อนำมาเผยแพร่ในเพจประชาธิปไตยใหม่ หรือ NDM โดยฉบับแรกเป็นกลอนจาก 7 ประชาธิปไตยใหม่ในห้องขัง ระบุว่าทำนองว่า แม้นไม่ได้เห็นตะวันและแสงเดือน เราจักไม่ลืมเลือนเจตนารมณ์ จาก7 ประชาธิปไตยใหม่ในห้องขัง ฉบับที่ 2 ระบุทำนองว่า “ไม่ต้องห่วงพวกผม..พวกเราทนไหว สิ่งที่เราโดนเล็กน้อยมาก”
และฉบับที่ 3 สรุปว่า”เป็นวันครบรอบการมีรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศไทย …อย่างไรก็ดีเป็นที่น่าเสียดายที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ อันเป็นเจตนารมณ์ของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ถูกทำลายลง แต่รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวนี้ได้สถาปนาความใฝ่ฝันของประชาชนที่จะไม่ยอมกลับไปถูกกดขี่ข่มเหงอีกต่อไป แม้พวกเราทั้ง 7 คนจะถูกคุมขัง แต่เจตนารมณ์และอุดมการณ์ยังคงใฝ่ฝันถึงเสรี และยังมีความหวังที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ประชาชนชาวไทยเป็นใหญ่โดยมีความเสมอภาคและเสรีภาพเท่าเทียมกัน พวกเราทั้งเจ็ดคนจึงขอรำลึกถึงรัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศไทยไปพร้อมกับพี่น้องประชาชนข้างนอก โดยมุ่งหวังว่าสักวันหนึ่งประชาชนจะเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศชาติได้ต่อไป”
