ป.ป.ช.ชี้ สอบจีที200ล่าช้า เหตุติดเอกสารจากต่างประเทศ เชื่อสรุปได้ในเดือน ก.ย.

“ป.ป.ช.”เร่งรวบรวมเอกสารจัดซื้อ จีที 200 เตรียมสรุป ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 ว่า ตอนนี้มีการดำเนินการทั้งหมด 14 สำนวน จาก12 หน่วยงาน ที่มีการจัดหาเครื่องจีที 200 เข้ามาใช้ในราชการ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งโดยได้คุยกับผู้รับผิดชอบแล้ว และได้เร่งรัดให้ดำเนินการ เชื่อว่าจะสามารถสรุปสำนวนทั้งหมดและเสนอให้คณะกรรมการป.ป.ช. พิจารณาและวินิจฉัยได้ภายในเดือนกันยายนนี้ ส่วนการดำเนินการที่ล่าช้าเพราะมีความเกี่ยวข้องกับเอกสารและพยานหลักฐานที่ต้องขอความร่วมมือจากต่างประเทศ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้มีขั้นตอนทางกฎหมายจึงทำให้มีความล่าช้าไปบ้าง อย่างไรก็ตามคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการขอเอกสารไปแล้ว และยังอยู่ในกระบวนการ ซึ่งมีเอกสารหลักฐานเพียงพอที่จะสามารถวินิจฉัยสรุปสำนวนได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ป.ป.ช.จะสามารถสรุปสำนวนได้หรือไม่ หากไม่มีเอกสารหลักฐานจากต่างประเทศ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ก็ต้องรอจนที่เราคิดว่าครบถ้วน เพราะเอกสารบางอย่างก็จำเป็น หากขาดเอกสารบางอย่างการจะวินิจฉัยความเชื่อมโยงก็อาจจะไม่ได้ ทั้งนี้เมื่อพยานหลักฐานพร้อมเราจะดูในมิติที่ว่าการจัดซื้อจัดหาได้ทำถูกต้องตามระเบียบและเป็นประโยขน์ต่อทางราชการหรือไม่ ตามที่ได้มีการกล่าวหา ซึ่งป.ป.ช. ต้องดูให้ครบ

เมื่อถามย้ำว่าเอกสารหลักฐานที่มีอยู่สามารถรวบรวมและสรุปสำนวนได้เลยหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากผู้ที่รับผิดชอบเรื่องด้งกล่าว ซึ่งเขามั่นใจว่ากระบวนการที่ทำอยู่ซึ่งมีเวลาประมาณ 3 เดือน น่าจะเพียงพอที่จะสรุปสำนวนได้ทั้งหมด

Advertisement

พล.ต.อ.วัชรพล ยังกล่าวถึงกรณีการพิจารณาถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อปี 2551 ว่า คณะกรรมการป.ป.ช. ยังรอรายงานของคณะทำงานที่มีนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. เป็นประธาน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าผู้ร้องร้องเข้ามาหลายประเด็นว่ามีพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งคณะทำงานก็คงกำลังสรุปอยู่ ทั้งนี้หากเสนอขึ้นมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็จะมีการพิจารณา

ด้านนายสรรเสริญ เปิดเผยว่า คณะทำงานได้สรุปเรื่องดังกล่าวและส่งรายงานไปแล้ว แต่ยังอยู่ในระหว่างบรรจุเข้าวาระการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุมไม่เกิน 2 สัปดาห์นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image