“สมชัย”ปูด มีขบวนการชี้นำปชช.กาบัตรประชามติ ชี้เข้าข่ายเป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย เตรียมดัดหลังเปลี่ยนรูปแบบบัตรใหม่ เผย ยอดขอใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัดกว่า 2 แสนคน
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 1 กรกฎาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการกกต.บรรยายพิเศษ เรื่อง “ความสำคัญของการเลือกตั้งกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย” ให้กับนักศึกษาหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง หรือ พตส. รุ่นที่ 7 โดยนายสมชัย กล่าวว่า การทำให้ประชาชนเข้าใจประเด็นที่จะมีการออกเสียงประชามติ สิ่งที่หนักหนาสาหัสมากคือประชาชนไม่ทราบหรือเข้าใจเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญเพียงพอที่จะตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ บางคนที่ตัดสินใจแล้วก็เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานการชี้นำของพวกพ้องหรือกลุ่มการเมืองที่ตนเองหลงใหลอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อประชาธิปไตยมาก ซึ่งการจัดเวทีชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญและประชามติที่ผ่านมา ตนได้รับรายงานจากสายลับที่นั่งปะปนกับผู้ที่ไปฟังการชี้แจงมีการพูดว่าไม่ต้องสนใจเนื้อหารัฐธรรมนูญให้กากบาทไปเลยที่ด้านขวาทั้งหมดหรือด้านซ้ายของบัตรทั้งหมด ซึ่งด้านขวาคือไม่รับส่วนด้านซ้ายคือรับร่างรัฐธรรมนูญ การทำเช่นนี้ไม่ส่งเสริมให้ประชาชนคิดหรือศึกษา แต่เป็นการบอกต่อแบบขาดสติ
“ถ้าผมเปลี่ยนรูปแบบของบัตรจะทำอย่างไร เพราะบัตรเลือกตั้งนั้นคนที่รู้แบบ สี รหัสนั้นมีผมคนเดียว ถามกกต.คนอื่นไม่มีใครรู้ เพราะเวลาประชุมกับโรงพิมพ์นั้นผมไล่เจ้าหน้าที่ออกหมด จะเหลือแค่ 3 คนคือผมและเจ้าหน้าที่กกต.อีก 2 คนกับเจ้าหน้าที่โรงพิมพ์เท่านั้น” นายสมชัย กล่าวและว่า สำหรับมาตรการป้องกันไม่ให้มีบัตรออกเสียงประชามติปลอม ได้กำหนดไว้ 5 มาตรการ ซึ่งตนสามารถดูด้วยสายตาได้ หากพบว่ามีบัตรปลอมเกิดขึ้น
นายสมชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการปิดลงทะเบียนใช้สิทธิออกเสียงลงประชามติทางอินเตอร์เน็ตที่ กกต.เปิดให้ดำเนินการตั้งวันที่ 1 พฤษภาคมถึง 30 มิถุนายนนั้น มียอดผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 158,423 คน ขณะที่การเปิดให้ยื่นลงทะเบียนด้วยตนเองต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึงวันที่ 7 กรกฎาคม มียอดผู้ลงทะเบียน ณ วันที่ 30 มิถุนายน จำนวน 48,322 คน รวมมีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธินอกเขตเลือกตั้งแล้ว 206,745 คน ถือว่ายอดดังกล่าวค่อนข้างน่าพอใจ และใกล้เคียงกับการออกเสียงประชามติเมื่อปี 2550 อย่างไรก็ตามยังเหลือเวลาอีก 7 วันที่ประชาชนยังสามารถยื่นลงทะเบียนด้วยตนเองได้ ซึ่งเชื่อว่าจะมีการยื่นขอลงทะเบียนเพิ่มอีกจำนวนมาก ส่วนการอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการและผู้สูงอายุที่จะมีการจัดหน่วยพิเศษซึ่งจะมีอุปกรณ์ในการอำนวยความสะดวกนั้นในเบื้องต้นได้มีการจัดเตรียมไว้แล้วสองจุดคือที่บ้านบางแค 1 และ 2
