วันที่ 1 กรกฎาคม เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา สบ10 ผอ.สืบสวนสอบสวน สตช. นำกำลังสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหาร เดินทางไปยังโกดังสุพรีมไรซ์ ในพื้นที่ ม.5 ต.ไพรนกยูง อ.หันคา จ.ชัยนาท เพื่อตรวจสอบข้าวในโกดัง หลังจากที่ตัวแทน บริษัท ซินตั๊ก กรุ๊ป จำกัด บริษัทคู่สัญญา ซึ่งได้ประมูลซื้อข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวจากกระทรวงพาณิชย์ เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมสำนักนายกรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ ซึ่งในวันนี้มีกองทัพสื่อมวลชนจำนวนมากมาร่วมสังเกตการณ์
โดยเมื่อเปิดโกดังเพื่อตรวจสอบคุณภาพของข้าวตามที่บริษัท ซินตั๊กกรุ๊ปแจ้ง โดยมีเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า หรือ อคส.และตัวแทนโกดังสุพรีมไรซ์ร่วมทำการตรวจสอบ โดยมีเซอเวเยอร์กลาง ทำการสุ่มใช้ท่อเหล็กแทงเพื่อนำเมล็ดข้าวออกมาตรวจสอบ ซึ่งพบว่ากระสอบข้าวที่อยู่แถวนอกสุดเป็นข้าวเหนียว10%ตามสัญญาจริง แต่ก็พบว่ามีข้าวบางกระสอบที่อยู่นอกกองที่พบว่าเป็นข้าวเจ้าและข้าวมีสิ่งปลอมปน เจ้าหน้าที่จึงใช้รถตักส่งคนขึ้นสำรวจบนกองข้าวเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งตัวแทนของบริษัทซินตั๊กกรุ๊ปกล่าวว่าพบข้าวตั้งแต่ชั้นที่ 20 ของกองจะเป็นข้าวเจ้าที่ปลอมปนไว้
พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา สบ10 ผอ.สืบสวนสอบสวน สตช.เปิดเผยว่าในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะทำบันทึกตรวจยึดของกลางทั้ง 390,000 กระสอบ ไว้เป็นของกลาง และคัดแยกส่วนที่เป็นข้าวตรงตามสัญญาส่งมอบให้บริษัทซินตั๊กกรุ๊ป ส่วนที่เป็นข้าวปลอมปนก็จะขนย้ายออกไปจัดเก็บในโกดังกลาง เพื่อตรวจสอบที่มาและหาผู้กระทำผิดต่อไป อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์ชัย ปอดีเสมอ ที่ปรึกษาตัวแทนของโกดังสุพรีมไรซ์ ผู้ให้เช่าโกดังได้ทำเรื่องคัดค้านการย้ายข้าวออกจากโกดังไว้ก่อน โดยให้เหตุผลว่าเพื่อปกป้องประโยชน์ของตนเองจากการรักษาหลักฐานไว้ในที่เดิมป้องกันการคลาดเคลื่อนที่จะมีผลทางคดี เพราะต้องการพิสูจน์ให้ได้ว่าข้าวมีการปลอมปนมาก่อนหน้าที่จะนำเข้ามาเช่าในโกดังสุพรีมไรซ์
