หนุ่มจบวิศวะ หันมาเป็นเกษตรกรปลูกเมล่อน สร้างกำไรสุดงาม ครึ่งล้านต่อปี

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครราชสีมา ได้มีหนุ่มนักศึกษาวิศวะ หันมาใช้ชีวิตแบบเกษตรพอเพียงด้วยการปลูกเมล่อนโรงเรือนปิด ขายส่งสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับครอบครัว โดยใช้ชื่อว่า “วีระเมล่อนฟาร์ม” ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่เศษ ในเขต ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมีนายวีระวัฒน์ เถกิงผล หนุ่มนักศึกษาวัย 30 ปี ที่จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง จ.นครราชสีมา แล้วหันหลังให้กับพนักงานโรงงาน ก่อนเบนเข็มชีวิตมาเลือกทำการเกษตรแทน

นายวีระวัฒน์ เถกิงผล เจ้าของวีระเมล่อนฟาร์ม เปิดเผยว่า โดยพื้นฐานแล้ว ตนเป็นลูกชาวนา หลังจากที่เรียนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องจักรกลเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานแล้ว ก็ไม่ได้ไปสมัครงานในโรงงานอุตสาหกรรมเหมือนเพื่อนๆ แต่กลับมาทำนากับครอบครัวที่บ้านอยู่ที่ จ.สุรินทร์ ประมาณ 5 ปี ซึ่งพบว่าการทำนานั้นมีต้นทุนสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังต้องประสบกับปัญหาภัยธรรมชาติอีกมากมาย ต่อมาได้คบกับแฟนอยู่ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่เศษ บริเวณ ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงเริ่มศึกษาการทำเกษตรสมัยใหม่ที่ใช้พื้นที่น้อยๆ แต่ได้ผลผลิตมากๆ และมาสนใจการปลูกเมล่อนแบบโรงเรือนปิด เพราะมีข้อดีหลายอย่าง เช่น สามารถควบคุมศัตรูพืชได้โดยไม่ใช้สารเคมี, ไม่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหรือภัยแล้ง และเมล่อนกำลังเป็นที่นิยมของตลาดอีกด้วย

โดยลงทุนค่าอุปกรณ์สร้างโรงเรือนละประมาณ 70,000 บาท มีความกว้าง 6.5 เมตร ยาว 30 เมตร จำนวน 4 โรงเรือน รวมค่าลงทุนสร้างโรงเรือนครั้งแรก เป็นเงินประมาณ 280,000 บาท ใช้งานได้ประมาณ 10 ปี และไปรับเมล็ดพันธุ์มาจากเทพมงคลฟาร์ม จ.มหาสารคาม เป็นเมล็ดพันธุ์เมล่อนไทยเนื้อสีขาว ใช้เวลาตั้งแต่เตรียมแปลง เพาะปลูก จนถึงเก็บเกี่ยว 3 เดือนต่อรุ่น 1 ปี ปลูกได้ 3 รุ่น ซึ่งปีแรกที่ปลูกก็ปรากฏว่าได้ผลผลิตดีมาก แต่ละลูกมีน้ำหนักเฉลี่ย 2 กิโลกรัม 1 โรงเรือนจะเก็บผลผลิตได้ประมาณ 700 กิโลกรัม ขายส่งกิโลกรัมละ 50 – 60 บาท

โดยปีแรกจะขายให้เจ้าของเมล็ดพันธุ์ก่อนซึ่งสามารถคืนทุนได้ในปีเดียวเลย เพราะ 1 รุ่นขายได้ประมาณ 168,000 บาท 3 รุ่นก็ประมาณ 504,000 บาท หลังจากนั้นตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นมาก็ขายส่งไปในตลาดสุรนคร และมีออร์เดอร์จากทั่วประเทศสั่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ผลผลิตออกมาเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน ซึ่งเมล่อนจะขาดตลาด เนื่องจากแปลงที่ปลูกนอกโรงเรือนจะได้รับผลกระทบจากศัตรูพืช เชื้อราและลมฝน ทำให้มีผลผลิตน้อย จึงมีราคาสูงขึ้นไปอีกกิโลกรัมละ 10 – 15 บาท โดยปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้วที่ตนปลูกเมล่อน สร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้เป็นที่น่าพอใจมาก นายวีระวัฒน์ฯ กล่าว ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจจะศึกษาการทำอาชีพเกษตรปลูกเมล่อนแบบโรงเรือนปิด หรือสั่งออร์เดอร์ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ วีระเมล่อนฟาร์ม ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา โทร 080-1656623

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image