ชื่อของ”วันทนีย์ หยกวิริยะกุล” ปรากฏต่อสาธารณชนครั้งแรกเมื่อปี 2530
เมื่อคดีตุ๋นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ด้วยการทำหลักฐานการบริจาคปลอม เพื่อประกอบการทำเรื่องขอพระราชทานเครื่องราชฯ เดินทางมาถึงจุดที่มีการเปิดโปงผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก
รวมถึงนางกิมเอ็ง แซ่เตียว หรือดวงฤทัย จารุจินดา ผู้คร่ำหวอดในวงการ ก่อนสิ้นฤทธิ์ด้วยคดีเครื่องราชฯ
โดย”วันทนีย์” ซึ่งว่ากันว่า เป็นน้องสาวของกิมเอ็ง เป็นผู้แจ้งความต่อกองปราบฯเอง
สื่อต่างๆ ขุดคุ้ยความเป็นมาของวันทนีย์ ที่พัวพันแนบแน่นคนดังวงการเมือง วงการตำรวจ การตกเป็นจำเลยเช็คเด้ง 1 ล้านบาท และอื่นๆ รวมถึงกรณีบริจาคเงินให้บิ๊กกองทัพ ที่โด่งดังในเวลานั้น
วันที่ 22 พ.ค. 2530 มีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2530 “วันทนีย์ “กินยาตาย ที่บ้านเลขที่ 100 / 113 ม.คลองจั่นวิลล่า 2 ถนนสุขาภิบาล 1 แขวงคลองกุ่ม บางกะปิ กทม.
เนื่องจากเสียใจที่อ่านข่าวพบว่า นายทหารระดับพล.อ.คนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เคยพูดว่าจะให้ความคุ้มครองวันทนีย์ ที่ออกมาแจ้งความในคดีดังกล่าวแต่อย่างใด จึงกินยาแวเลียมเข้าไปเกินขนาด
แต่สุดท้ายวันทนีย์อาการปลอดภัย ข่าวระบุว่า คนรับใช้ได้นำตัวส่งคลีนิก ให้น้ำเกลือแล้วกลับมาพักผ่อนที่บ้าน ก่อนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวิภาวดี
วันทนีย์ เปิดใจให้สัมภาษณ์เวลาต่อมาว่า ตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะได้อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งลงข่าวโจมตีให้ตนเสียหาย ประกอบกับพล.อ.—-ให้สัมภาษณ์เรื่องการบริจาคเงินของตนในทำนองว่าเมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินแล้วไม่รู้จะมีปัญหาหรือไม่ และยังกล่าวด้วยว่า ไม่เคยพูดว่าจะให้การคุ้มครองใคร เมื่อรวมเหตุการณ์เหล่านี้เข้าด้วยกันแล้วคิดท้อแท้ขึ้นมาทันที ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คนทั่วไปเข้าใจว่าต้องมีชนักติดหลังอะไรบางอย่างอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการบริจาคเงินให้กับพล.อ.—— จำนวน 500,000 บาท นางวันทนีย์กล่าวว่า
ตนไม่มีชนักติดหลังหรือปัญหาอะไรทั้งสิ้นสำหรับเรื่องการบริจาคเงิน 500,000 บาท คือเมื่อเร็วๆ นี้ “หมอหยอง” ได้ชวนไปงานของพล.อ.ดังกล่าว ตนคิดจะบริจาคเงินให้การกุศล 100,000 บาท ซึ่งหมอหยองบอกว่าจะบริจาคด้วย 400,000 บาทเป็นเงินรวม 500,000 บาท ขอให้ตนเขียนเช็คมอบให้กับพล.อ.— เงิน 400,000 บาทจะนำมาเข้าบัญชีภายหลังตนจึงไม่ได้ลงวันที่ในเช็ค
ต่อมาพล.อ.ดังกล่าว ให้คนนำเช็คไปให้หมอหยองลงวันที่เป็นวันที่ 22 พฤษภาคมซึ่งก็ถึงกำหนดแล้วในวันนี้ แต่คนถือเช็คจะไปเบิกเงินไม่ได้หรอก เพราะตนจะแจ้งไปยังธนาคารกรุงไทยไม่ให้จ่ายเงิน
“ในธนาคารกรุงไทย เงินของดิฉันฝากไว้ประมาณล้านกว่าบาท เมื่อเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นทำให้เกิดความคิดไม่อยากบริจาคทำบุญกับ พล.อ.—–” นางวันทนีย์กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์บางฉบับว่ามีสามีหลายคนนั้น นางวันทนีย์กล่าวว่า อายุของตนไม่ได้มากมายอะไร เอาเวลาที่ไหนไปมีแฟนหรือสามีเป็นร้อย หนังสือพิมพ์อยากจะลงก็ลงไปล้วนไม่จริงทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนางดวงฤทัยได้ประกันตัวไปแล้วได้พบและพูดจากันบ้างหรือไม่ นางวันทนีย์เผยว่า หลังจากนางดวงฤทัยได้ประกันตัวไปแล้ว วันรุ่งขึ้นตนได้โทรศัพท์ไปหาที่บ้าน นางดวงฤทัยไม่ได้โกรธที่ตนแจ้งความจับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นางดวงฤทัยขอร้องให้ถอนแจ้งความหรือไม่ “ดวงฤทัยไม่พูด แกบอกว่าให้ไก่พิจารณาเองเองว่าดีแค่ไหน และยังบอกด้วยว่า พี่ไม่เคยด่าเธอเลยนะ” นางวันทนีย์ซึ่งมีชื่อเล่นว่า “ไก่” กล่าวและย้ำว่า ตอนนี้ยังไม่คิดจะถอนแจ้งความเพราะต้องการให้เรื่องไปพิสูจน์กันในชั้นศาลว่าใครอยู่ในขบวนการต้มตุ๋นเครื่องราชอิสริยาภรณ์บ้าง
นั่นคือข่าวจากปี 2530 ร่วมๆ 30 ปี ผ่านมาแล้ว
หลังจากนั้น วันทนีย์ยังเป็นข่าวตามสื่อ ในรูปลักษณ์ของผู้มีฐานะอันจะกิน อาทิ ข่าวเปิดโรงแรมหรูในกทม. วิวาห์กับนายตำรวจหนุ่มรูปหล่อ ในปี 2535
งานนั้น เดิมที พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กับคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ จะมาเป็นประธานในงานแต่ถึงเวลากลับไร้เงานายทหารชื่อดังแห่งยุคกับภริยา
และมีข่าวต่อเนื่อง ว่าเธอชมชอบการแจกเงิน จนกลายเป็นที่มาของชื่อ “คุณหญิงไก่”
ก่อนจะมาอยู่ในฐานะลำบากในขณะนี้ เมื่อเป็นเจ้าทุกข์แจ้งความเอาผิดคนใช้ว่า ลักทรัพย์ และตำรวจกำลังพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ ว่ามีการแจ้งเท็จหรือไม่
และอาจพลิกสถานะของหญิงไก่ให้ยุ่งยากมากขึ้น
