บิ๊กป้อม ซัดบอมบ์ปัตตานี หวัง ดิสเครดิต งงเกิดถี่ช่วงรอมฎอน ยัน ไร้ไอเอสเข้าไทย

“บิ๊กป้อม” ชี้ บอมบ์ปัตตานี หวัง ดิสเครดิต งง เกิดเหตุถี่ช่วงรอมฎอน ยัน ไม่มีไอเอสเข้าไทย สั่งมทภ.4 ร่วมกับขรก.ปราบปราม-ป้องกัน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์บริเวณด่านเกาะหม้อ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ว่า แม่ทัพภาคที่ 4 จะลงตรวจสอบ ทั้งนี้ทราบมาว่าไม่ได้ระเบิดในเขตชุมชน แต่ระเบิดที่ทางรถไฟ ซึ่งห่างจากชุมชนไป 5 กิโลเมตร แสดงให้เห็นว่า ผู้กระทำต้องการดิสเครดิตจึงไม่ทำที่ชุมชน อย่างไรก็ตาม กองทัพภาคที่ 4 ร่วมกับตำรวจ ข้าราชการ จะช่วยปราบปรามป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ให้มากที่สุด จากสถิติปีที่ผ่านมา เกิดระเบิด 37 ครั้ง แต่ในปีนี้ เกิด 30 กว่าครั้ง ซึ่งลดน้อยลง โดยเหตุการณ์อาจจะเกิดถี่ในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งไม่ว่าเหมือนว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทั้งนี้ตนได้เรียกประชุม แม่ทัพภาคที่ 4 ผบ.ตร. หาแนวทางแก้ไขปัญหา เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา และคาดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะดีขึ้น

พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงเหตุระเบิดไนท์คลับในเมืองปูจงของมาเลเซีย โดยตำรวจยืนยันว่าเหตุดังกล่าวเชื่อมโยงกับเกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ว่า สำหรับประเทศไทยยืนว่าไม่มีกลุ่มไอเอสเดินทางเข้ามาแน่นอน เพราะไม่ได้มีความขัดแย้งกับกลุ่มคนเหล่านี้ และยืนยันว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในไทยไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอสแต่อย่างใด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องดูแลสถานการณ์ในประเทศ โดยเฉพาะสถานที่ราชการ สถานบันเทิง ศูนย์การค้า และแหล่งชุมชนที่มีคนอาศัยอยู่จำนวนมาก ขณะที่การประสานงานด้านการข่าวจะต้องบูรณาการทุกหน่วยงาน โดยมีสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ทำหน้าที่เป็นหลัก ส่วนนักศึกษาที่ไปศึกษาในประเทศตะวันออกกลาง จะมีแนวคิดที่รุนแรงกลับมาหรือไม่นั้น ต้องดูว่าทำไมถึงต้องไปเรียนเป็นจำนวนมาก แต่หากไปเรียนทางวิสามัญ หรือวิชาชีพ เพื่อจะได้นำความรู้กลับมาพัฒนาประเทศถือเป็นเรื่องดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image