ย้อนรอย’หญิงไก่’ คดีอื้อฉาว ข่าว’ดราม่า’

นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก “หญิงไก่” สาวใหญ่วัย 56 ปี ที่อำพรางชื่อและใบหน้า เปิดห้องโรงแรมสยามพาราไดซ์ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ตั้งโต๊ะแถลงข่าวตอบโต้นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ กรณีให้สัมภาษณ์พาดพิง ในคดีแจ้งจับหญิงรับใช้ฐานลักทรัพย์ในห้องพักคอนโดมิเนียม บ้านประชานิเวศน์ 1 สูญทรัพย์สินกว่า 10 ล้านบาท

“หญิงไก่” ยืนยันความบริสุทธิ์ พร้อมโชว์คลิปภาพวงจรปิดที่บันทึกไว้ในสมาร์ทโฟน ด้วยท่วงท่ามั่นใจว่ามีหลักฐานเด็ดในมือ

รุ่งขึ้นนายสงกานต์สวนกลับทันควัน ด้วยการพา “น้องก้อย” หรือ น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า อายุ 19 ปี นิสิตปี 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง คู่กรณี “หญิงไก่” เข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ให้ดำเนินคดีกับ “หญิงไก่” อดีตนายจ้าง ฐานแจ้งเท็จ กรณี “หญิงไก่” แจ้งความ นายชูเกียรติ ใจกล้า นางประภาพร ทองเฟื่อง บิดามารดาของน้องก้อย รวมถึงน้องก้อยเอง ฐานลักทรัพย์กว่า 10 ล้าน

กลายเป็นกระแสสังคม ว่า ปมลักทรัพย์ 10 ล้าน กับปมแจ้งเท็จ ใครพูดจริง ใครลวงโลก?!!

Advertisement

พร้อมๆ กันนั้น นายสงกานต์ยังนำลูกสาวเหยื่อถูกกล่าวหาลักทรัพย์อีกราย “น้องมีน” น.ส.วณิชยา บุ้นสุนเฮง บุตรสาวของนางสุกัญญา ศิริม่วง ผู้ต้องขังในทัณฑสถานหญิงกลาง ที่ถูก “หญิงไก่” อดีตหญิงนายจ้าง แจ้งความดำเนินคดีฐานลักทรัพย์ 3.2 ล้านบาท จนพ่ายแพ้คดี ติดตะราง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ “หญิงไก่” เป็นรายที่สอง

และไม่นานนัก เหยื่อรายที่สามก็ปรากฏตัว เจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาบดีแม่ฮ่องสอน พา “หนูนา” หรือ น.ส.จันทนา คชคงไทย อายุ 25 ปี กับสามี “นายธนาธิป ศรีสิงห์” อายุ 32 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อเป็นพยานให้กับคดีที่น้องก้อยพร้อมกับพ่อแม่ตกเป็นผู้ต้องหา รวมทั้งแจ้งความ “หญิงไก่” กลับ หลังจากหนูนาพ้นจากการจองจำ ที่เธอถูกจำคุกนาน 1 ปี 6 เดือน

 (จากซ้าย) กิมเอ็ง - วันทนีย์
(จากซ้าย) กิมเอ็ง – วันทนีย์

เด็กสาวทุกรายให้ปากคำตรงกันว่า “หญิงไก่” พยายามชักชวนให้เดินทางไป “ฮ่องกง” แต่เมื่อไม่ยินยอมจึงถูกแจ้งความฐานลักทรัพย์!!

Advertisement

“หญิงไก่” เป็นใครมาจากไหน เป็นคุณหญิงจริงไหม เป็นไฮโซสาวหรือเปล่า มีทรัพย์สินอู้ฟู่ จริงหรือ และทำไมถึงต้องอาฆาตเมื่อเด็กสาวปฏิเสธการเดินทางไปฮ่องกง ถึงขั้นแจ้งจับจนกลายเป็นคดีความ?!!

ไม่นานนัก ชื่อเสียงเรียงนาม “หญิงไก่” ถูกเปิดเผยผ่านสื่อ สาวใหญ่เปลี่ยนชื่อมาแล้วถึง 3 ครั้ง ชื่อเดิม นางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล ต่อมาปี 2548 เปลี่ยนชื่อเป็น นางสุชาดา หยกวิริยะกุล ล่าสุดเปลี่ยนชื่อเป็น นางมณตา หยกรัตนกาญ จนถึงปัจจุบัน

ทว่า ในการให้สัมภาษณ์แต่ละครั้ง เจ้าตัวยังคงยืนกรานปฏิเสธว่า ทั้ง 3 ชื่อที่เอ่ยมา ไม่ใช่ชื่อของเธอ

อย่างไรก็ดี หาก “หญิงไก่” เป็นคนเดียวกับ “นางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล” จริง จัดว่าไม่ธรรมดา เธอเคยมีชื่อปรากฏในข่าวจนอึกทึก ครึกโครม เมื่อปี 2530 มาแล้ว

ครั้งนั้น “นางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล” ตกเป็นข่าวงัดข้อกับ “กิมเอ็ง แซ่เตียว” หรือ นางดวงฤทัย จารุจินดา ที่ตามกระแสข่าวบอกว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน แต่จะเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด หรือพี่น้องร่วมโลก ยังไม่แน่ชัด

พลิกแฟ้มคดีเก่า “กิมเอ็ง” จัดเป็นไม้เบื่อไม้เมา กับ “นางวันทนีย์” หรือ “หญิงไก่” และที่สำคัญยิ่งยวดไปกว่านั้นพบว่า “หญิงไก่” เป็นพยานปากเอกในคดีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ที่ “กิมเอ็ง” ตกเป็นจำเลย เมื่อปี 2530 ด้วย

“กิมเอ็ง” ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2530 และถูกฟ้องเป็นจำเลยฐานประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่ามีสิทธิ หลังจากเธอประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทยไปงานราตรีสโมสรสันนิบาตที่ทำเนียบรัฐบาล

โดย พล.ต.ต.บุญชู วังกานนท์ ผู้บังคับการกองปราบ (ในขณะนั้น) เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพบว่า “กิมเอ็ง” ยืมเครื่องราชอิสริยาภรณ์มาจากพระราชปัญญาโกศล หรือเจ้าคุณอุดม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส แล้วไม่ได้นำไปคืน

สุดท้ายศาลพิพากษาจำคุก 6 เดือน “กิมเอ็ง” และริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์

อีกคดีที่สร้างรอยร้าวลึกให้กับ 2 พี่น้อง

เมื่อ “หญิงไก่” แจ้งความดำเนินคดี “กิมเอ็ง” ฐานฉ้อโกงเงิน 3 ล้านบาท

อันเป็นที่มาของเรื่องราวดราม่า เมื่อ “หญิงไก่” ให้สัมภาษณ์ว่า มีผู้ข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ แต่นายทหารใหญ่ระดับ พล.อ.ขณะนั้น ให้กำลังใจให้สู้ต่อไป

แต่ไม่ทันไร คำสัมภาษณ์ของนายทหารคนเดียวกัน ก็ทำให้ “หญิงไก่” ถึงขั้นเสียใจฟูมฟาย สะอื้นไห้ พร้อมกับบอกว่า “ไม่มีใครจริงใจกับตน” ก่อนขังตัวเองอยู่ในห้อง

กินยานอนหลับ (แวเลียม) เกินขนาดจนอาเจียนและสลบไป

“ตามที่นางวันทนีย์อ้างว่า ผมให้ความคุ้มครองจากการที่ถูกข่มขู่นั้นไม่เป็นความจริง เรื่องนี้สืบเนื่องจากในวันแถลงข่าวจัดคอนเสิร์ต ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ นางวันทนีย์ได้บริจาคเงินสมทบทุน 500,000 บาท และได้ขอหมายเลขโทรศัพท์ที่บ้านตามไปด้วย จากนั้นได้โทรศัพท์ไปหลายครั้ง โดยนางวันทนีย์บอกว่าถูกข่มขู่คุกคามให้ถอนแจ้งความ จึงบอกไปว่าถ้าเรื่องที่แจ้งความเป็นความจริงก็อย่าไปถอน ให้ทำต่อไปบ้านเมืองมีขื่อมีแป แต่ไม่ได้ไปบอกว่าจะคุ้มครองอะไร” นี่คือบทสัมภาษณ์ของ พล.อ. ที่กระตุ้นต่อมโศก ทำให้ “หญิงไก่” ถึงกับพยายามฆ่าตัวตาย

นายทหารคนเดียวกันยังย้ำปฏิเสธในภายหลังด้วยว่า ไม่เคยไปรับปากว่าจะให้ความคุ้มครอง

พลันฟื้นจากฤทธิ์ยาสลบ และถอดสายน้ำเกลือ “หญิงไก่” เปิดใจว่า ที่ตัดสินใจฆ่าตัวตาย เนื่องจากได้อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ลงข่าวโจมตีให้เสียหาย ประกอบกับ พล.อ.ให้สัมภาษณ์เรื่องการบริจาคเงินของตนทำนองว่า เมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินแล้ว ไม่รู้จะมีปัญหาหรือไม่ รวมทั้งไม่เคยพูดว่าจะให้การคุ้มครองใคร จึงคิดท้อแท้ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

“เรื่องการบริจาคเงิน 500,000 บาท เรื่องเร็วๆ นี้ หมอหยองชวนไปงานของ พล.อ…. จึงคิดจะบริจาคเงิน 100,000 บาท หมอหยองบริจาคด้วย 400,000 บาท เป็นเงินรวม 500,000 บาท ขอให้ดิฉันเขียนเช็คมอบให้ พล.อ…..ไปก่อน และจะนำเข้าบัญชีคืนให้ภายหลัง จึงเขียนเช็คแต่ไม่ได้ลงวันที่ในเช็ค ภายหลังเกิดเรื่องดิฉันจะแจ้งไปยังธนาคารไม่ให้จ่ายเงิน เมื่อเกิดเรื่องอย่างนี้ทำให้เกิดความคิดไม่อยากทำบุญแล้ว” หญิงไก่ให้สัมภาษณ์หลังจากผิดหวังอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ดี ห้วงเวลาใกล้เคียงกันนั้น “หญิงไก่” ถูกฟ้องตกเป็นจำเลยในความผิดตาม พ.ร.บ.เช็คด้วย โดยเหตุเกิดเดือนมีนาคม 2529 กรณีออกเช็คธนาคารนครหลวงไทย สาขาตลาดหมอชิต สั่งจ่ายเงิน 1,560,000 บาท ชำระหนี้บริษัทธนะกันต์ เจ้าของกิจการสุโขทัยแมนชั่น แต่สุดท้ายธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โดยให้เหตุผลว่าลายมือผู้สั่งจ่ายไม่เหมือนตัวอย่างที่ให้ได้

เป็นปูมหลัง อดีตที่ย้อนกลับไปเกือบ 30 ปี ของ “หญิงไก่” หรือ นางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล เมื่อครั้งวัยสาว ที่เธอก้าวเข้ามาสัมผัสกับแวดวงไฮโซ สังคมชั้นสูง

มาวันนี้ “หญิงไก่” กลายเป็นข่าวโด่งดังพัวพันกับเรื่องคดีอีกครั้ง

จากคดีที่เธอแจ้งจับสาวใช้ฐานลักทรัพย์กว่า 10 ล้าน ถูกย้อนแย้ง ด้วยคดีแจ้งเท็จ และไม่แน่ว่าอาจพ่วงท้ายด้วยข้อหาค้ามนุษย์

เร็วๆ นี้คงได้รู้กัน ว่าข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน จะเข้าข้างใคร

แต่ต้องไม่ใช่คนผิด ที่ลวงโลกแน่นอน!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image