ทองลุน สีสุลิด นายกฯลาว แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน นับแต่เพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว ได้เลือกตั้งและประชุมสมัชชาใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติลาวครั้งล่าสุด รวมถึงได้จัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แต่ความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างก็เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้ประชาชนรู้สึกว่า รัฐบาลลาวเปลี่ยนไป ภายใต้การนำของ ฯพณฯ ทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีคนใหม่

นโยบายที่ประกาศอย่างชัดแจ้ง ฉับพลัน และรวดเร็วอย่างเต็มที่ คือนโยบายตามดำรัสนายกรัฐมนตรีที่ 15/2016 ที่สั่งห้ามการส่งออกไม้อย่างเด็ดขาด ให้ส่งออกได้เพียงแต่ผลิตภัณฑ์จากไม้ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐแล้วเท่านั้น สร้างความสั่นสะเทือนให้แก่ทั้งบริษัทรับสัมปทานค้าไม้ บริษัทส่งออกและแปรรูปไม้ รวมถึงพนักงานของรัฐทั่วทั้งประเทศ โดยแม้ว่าเมื่อแรก ทุกคนจะมองว่านโยบายดังกล่าวเป็นแค่ความพยายามสร้างภาพไฟแรงของรัฐบาลใหม่แต่หากผ่านเวลามาแล้วสามเดือน การกวดขันนโยบายนี้ยิ่งเข้มงวดมากขึ้น และได้มีคำสั่งเพิ่มเติมเพื่อจัดตั้งปฏิบัติได้แข็งแรงขึ้น จนทำให้การขนส่งไม้ออกนอกประเทศลาวลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ตามด้วยการเผยแพร่ข่าวสารของรัฐบาลผ่านสื่อเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียที่แพร่หลายขึ้น มีการสร้างเพจสนับสนุนนายกรัฐมนตรี แจกแจงการทำงานของรัฐบาล และกระจายข่าวสารไปยังเว็บเพจและเว็บไซต์อิสระของลาวต่าง ๆ เช่น โทละโข่ง (Tholakhong) อิดสะหละ (Issara) โดยนำเสนอการทำงานของภาครัฐในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือการอภิปรายของสมาชิกสภาแห่งชาติ คัดเอาส่วนที่น่าสนใจเป็นคลิปมานำเสนอ

ในทางตรงข้าม การกวดขันการแสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียก็ถือว่าเข้มงวดและรุนแรงขึ้น มีการจับกุมชายหนุ่ม 3 คน ด้วยข้อกล่าวหาว่าเป็นกบฏต่อพรรครัฐ ในการทำเพจและเว็บไซต์ต่อต้านรัฐบาล อย่างไรก็ตาม การจับกุมครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแต่การทำแค่เว็บไซต์หรือเพจต่อต้านเท่านั้น แต่รวมไปถึงความพยายามในการเคลื่อนไหวนอกโซเชียลมีเดียเป็นต้นว่า ชักธงช้างสามเศียรแห่งราชอาณาจักรลาวในเมืองใหญ่อย่างสะหวันนะเขต หรือพยายามปลุกระดมจัดตั้งกลุ่มคนเพื่อก่อความไม่สงบอย่างจริงจังด้วยจึงถูกจับกุม

Advertisement

นอกจากนี้ ฯพณฯ ทองลุน ยังได้นำเสนอตัวเองว่าเป็นผู้นำยุคใหม่ที่มีความรู้ความสามารถในระดับสากล จากการที่เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาก่อน และจบการศึกษาจากรัสเซีย ทำให้เชี่ยวชาญหลายภาษาทั้งลาว ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย เมื่อเดินทางไปเจรจาความเมืองยังต่างแดน ก็สามารถสนทนากับผู้นำต่างชาติได้อย่างคล่องแคล่วด้วยท่าทีสง่างามแตกต่างจากนายกฯ ผู้อื่นในอดีตระยะใกล้ ถ้าจะย้อนไปถึงยุคที่ลาวมีผู้นำซึ่งสามารถเจรจาในเวทีโลกได้สง่าเทียบเท่ากันอาจจะต้องย้อนไปถึงยุคของท่านเสด็จเจ้าสุพานุวงเลยทีเดียว

รวมถึงนโยบายล่าสุดในการปฏิรูประบบจัดเก็บภาษี ที่เข้มงวดกวดขันและเปลี่ยนจากระบบเจ้าภาษีเก็บเงินสดส่งคลังที่ส่อการคอร์รัปชั่นและรั่วไหลในอดีต ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การจัดเก็บรายได้ของ สปป.ลาว ต่ำกว่าเป้า งบประมาณขาดดุลและเกิดความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณแก่พนักงานของรัฐมาโดยตลอด ให้กลายเป็นระบบสั่งจ่ายผ่านธนาคารที่ดูจะโปร่งใสกว่า

ภาพรวมของนโยบายรัฐบาลท่านทองลุน ดูเหมือนว่าจะเป็นการปิดจุดอ่อนหลักของประเทศลาว อันได้แก่ การทำลายทรัพยากรธรรมชาติทางป่าไม้ ภาพลักษณ์การสื่อสารต่อสาธารณชน ความทันสมัยและเข้ากับนานาชาติ และการคอร์รัปชั่นการจัดเก็บรายได้ของรัฐ ภายในไม่กี่เดือน ประชาชนชาวลาวเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของภาครัฐ และผู้บริหาร ถึงกับยกย่องว่า ท่านทองลุนผู้นี้เป็น “นายกฯของประชาชน” ตัวจริง

Advertisement

อย่างไรก็ตาม เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ท่านทองลุน จะเป็นทองแท้ที่มาลุน (มาทีหลัง) นำพาลาวให้พ้นจากความยากจนในเป้าหมายปี 2025 หรือจะถูกแรงเฉื่อยของระบบเดิมๆ จนไฟมอดไปก่อน ความหวังอนาคตของลาวอยู่ในการนำพาของนายกฯ ทองลุนผู้นี้เอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image