เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวภายหลังนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เข้าพบว่า ได้รับมอบหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับการหายตัวไปของบุคคล 2 คนที่เกี่ยวข้องกับนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ ผู้ต้องหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พยายามค้ามนุษย์ และแจ้งเท็จ โดยในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ ครอบครัวผู้เสียหายจะเข้าให้ข้อมูลเพื่อเป็นหลักฐานดำเนินคดี ขณะนี้มีกว่า 10 คดีที่นางไก่จะตกเป็นผู้ต้องหา รวมทั้งพฤติกรรมเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (บช.ภ.5) ร่วมกันลงพื้นที่ไปพบกับชาวเขาเผ่าปกากะญอ คาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวต่อว่า ส่วนที่นายสงกานต์ระบุว่าตำรวจ สน.ประชาชื่นอาจมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับนางไก่นั้น จะต้องดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน ยังตอบไม่ได้ว่า ร.ต.ท.คนดังกล่าวจะตกเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ ต้องเรียกมาสอบปากคำ เนื่องจากบางครั้งนางไก่มีพฤติกรรมสร้างตัวละครขึ้นมาเสริมความน่าเชื่อถือให้กับตนเอง เช่น อ้างว่ามีทหารยศนายพลติดตามไปที่สถานีตำรวจ แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นทหารจริงหรือไม่ ทั้งนี้ให้ความมั่นใจว่าแม้มีกระแสข่าวว่านางไก่มีนายตำรวจหลายนายแวดล้อมรอบตัว แต่ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวอีกว่า จากการติดตามดูพฤติกรรมของนางไก่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนเป็นผู้ต้องหา เชื่อว่านางไก่มีอาการจิตไม่ปกติ ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ แต่ไม่รู้ตัว และจากการตรวจสอบประวัติการรักษา ไม่พบข้อมูลการรักษาตัว หรือยาที่ใช้รับประทานระงับอาการ โดยยอมรับว่าอาการจิตไม่ปกติของหญิงไก่ อาจถูกนำมาใช้ต่อสู้คดี
ผบช.ก.กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังพบว่าในช่วงเวลา 30 ปีมานี้นางไก่จดทะเบียนสมรสและจดทะเบียนหย่า 6-7 ครั้ง ไม่นับรวมความสัมพันธ์ที่ไม่มีการจดทะเบียน
