บิ๊กตู่ ชี้ไทยแลนด์4.0 ติดเน็ตทุกหมู่บ้าน ต่อไปคนไทยจะมีอำนาจเลือกกินเอง ไม่เอาคนป้อน

เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติตอนหนึ่งว่ารัฐบาลได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอินเตอร์เน็ต ทุกหมู่บ้าน ให้ทุกคนเข้าถึงองค์ความรู้ ในทุกสาขาวิชาชีพ จากแหล่งข้อมูลทางวิชาการทั่วโลก ที่มักจะเป็นภาษาอังกฤษ ต่อไป คนไทยต้องกินอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ไม่ให้ใครมาป้อนแบบเด็กๆ เหมือนที่ผ่านมา ต้องเลือกทานได้ เราไม่สามารถตอบสนองความต้องการของแต่ละคนได้ โดยไม่ยั่งยืน เราต้องดูความยั่งยืนให้เกิดขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นก็ต้องสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้มากขึ้น ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เราต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง เรียนรู้ตลอดชีวิต และทุกอย่างต้อง ระเบิดจากข้างใน คือตนเองนั้นต้องอยากรู้ อยากเรียนด้วย เราบังคับใครไม่ได้มากนักในเรื่องเหล่านี้

“ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของชาตินั้น ให้รองรับแนวทางการพัฒนาประเทศ อย่างยั่งยืน เรามีนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมาก ที่ทุกภาคส่วน ทุกคน ต้องมีความเข้าใจที่ตรงกัน เราจะต้องทำอย่างไรให้ประเทศได้เดินหน้าไปสู่การเป็น คนไทย 4.0 วันนี้ต้องยอมรับว่าเรามีหลายระดับด้วยกันนะครับ ไม่ว่าจะ3.0, 2.0, 1.0 ก็มีคละเคล้ากันไป เราติดกับดักรายได้ปานกลางอยู่ในปัจจุบัน เราจะก้าวไปสู่ 4.0 ได้ทั้งหมด เราก็เอา 3.0 เป็น 4.0 ก่อน ในส่วนของ 1.0, 2.0 ต้องทำไปสู่ 3.0 นะครับ แล้วก็นำไปสู่ 4.0 ระยะเวลา ใช้เวลาแตกต่างกัน รัฐบาลแยกแยะเพื่อจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้น เหมือนกับเราตัดเสื้อตัวเดียว ไม่ได้ทั้งหมดแหละถือว่า คน เป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด ในการขับเคลื่อนตามนโยบายดังกล่าว เราจะต้องมีนวัตกรรม มีขีดความสามารถในการแข่งขัน เศรษฐกิจประเทศจะต้องเข้มแข็ง ครบวงจร เราจะต้องมีมูลค่าสินค้าของเราให้สูงขึ้น สร้างห่วงโซ่มูลค่า ทั้งต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน เรากำลังอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่านนะครับ ทุกคนช่วยกันร่วมมือ อดทน แก้ไขปรับปรุง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กุญแจสู่ความสำเร็จในการสร้าง คนไทย 4.0 เพื่อรองรับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 นั้น รัฐบาลต้องอาศัยความร่วมมือ จากทั้งภาคเอกชนและภาคการเงิน โดยเฉพาะสถาบันการศึกษา ในแต่ละภูมิภาค ทุกประเภทนะ จะติ้งเข้ามาสนับสนุนด้านการศึกษา วิจัย และพัฒนา ในแต่ละกลุ่มเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเป้าหมายตัวอย่างเช่น 1.อุตสาหกรรมอาหารและเกษตรกรรม ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ + มหาวิทยาลัยสงขลาสงขลาฯ + มหาวิทยาลัยขอนแก่น + มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ มหาวิทยาลัยบูรพา 2. กลุ่มอุตสาหกรรมสุขภาพและชีวภาพ ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล + มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ + มหาวิทยาลัยขอนแก่น และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ 3.กลุ่มอุตสาหกรรมอุปกรณ์อัตโนมัติ อัจฉริยะ ดิจิทัล และหุ่นยนต์ ได้แก่ มหาวิทนาลัยสุรนารี + มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี+ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image