ยังอยู่กันต่อที่สุราษฎร์ธานีนะครับ คราวนี้ขอแนะนำร้านยอดฮิตติดอันดับมาตลอดหลายสิบปี
ร้านแรกเปิดมานาน 36 ปีแล้ว มีชื่อว่า“ลัคกี้ภัตตาคาร” หรือเรียกสั้นๆ ว่า“ลัคกี้”ก็ได้ อยู่”เลยตลาดเกษตร ถนนตลาดใหม่มานิดเดียว” เลยมาประมาณ 100 เมตร จะมีแยกไฟแดงเล็กๆ ให้เลี้ยวขวาเข้า”ถนนท่าทอง”(ลักษณะเหมือนเป็นซอย) ร้านลัคกี้จะอยู่ใกล้ปากทางด้านซ้ายมือเลย มีที่จอดรถในตึกหลังร้านด้วย ซึ่งร้านนี้ดังขนาดคนสุราษฎร์เรียกถนนท่าทองว่า”ซอยลัคกี้”เลยทีเดียว
ร้านลัคกี้ตกแต่งสไตล์ไทยย้อนยุคเรียบง่ายติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ เป็นของคุณยายเล็ก ยวงทอง ชุมถาวร คนตลาดบ้านดอนนี้เอง ทุกวันนี้ยังออกไปจ่ายตลาดเลือกผักปลา ดูแลข้างในครัวด้วยตัวเอง มีลูกหลานคอยช่วยกันในครอบครัว
พี่แมว บงกช หลานคุณยายเล็กซึ่งคอยดูแลหน้าร้านเล่าว่าจุดขายของลัคกี้คืออาหารอร่อย สนนราคาไม่แพง มีทั้งอาหารจีน ปักษ์ใต้ ทะเล โดยระยะหลังเมนูที่กำลังมาแรงมากๆคือ “จะละเม็ดขาวหม้อไฟ” เนื้อมันแผล็บกินอร่อยมาก ซึ่งน้ำแกงทำจากน้ำซุปกระดูกหมูใส่หมูสับ ขิง และผักกาดขาว ให้ลวกปลาพอสุกจิ้มกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวและน้ำจิ้มซีฟู้ด อร่อยจนเห็นสวรรค์รำไร ตัวที่เราชิมนี้ราคา 1,300 บาท คิดราคาตามขนาดปลา หม้อละ 1,000-1,200 ไปจนถึง 1,500 บาท อยู่เมืองกรุงไม่มีทางได้กินปลาจะละเม็ดสดและราคาดีขนาดนี้แน่
อีกอย่างที่ห้ามพลาดคือ”แกงส้มปลากะพง” รสชาติจัดจ้านแต่กลมกล่อม เครื่องแกงทำเอง ไม่เปรี้ยวโดด ทีเด็ดอยู่ที่ใช้ปลาตัวใหญ่หนัก 10 กิโล ได้ปลาชิ้นโตเนื้อมันๆ ใหญ่เท่ากำปั้นทารก แถมยังสั่งให้ใส่”เครื่องในปลา”ได้ด้วยทั้งตับ ไข่ปลา กระเพาะปลา (แกงส้มเนื้อปลาอย่างเดียว 120 บาท ใส่เครื่องในด้วย 250-300 บาท) เราเลือกใส่หน่อไม้ดอง หรือจะใส่ยอดมะพร้าว อ้อดิบ ผักบุ้ง ผักกาดขาวก็ได้
เมนูของดีที่ต้องลอง “หลนไตปลา”(80 บาท)ใส่กุ้งสับหอมกะทิมาก ทำจากไตปลาทูต้มแล้วเอาน้ำมาทำหลนซึ่งไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่น้อย ปรุงด้วยตะไคร้ หอมแดง ขิงซอย น้ำตาลปี๊บ หัวกะทิ
ของเผ็ดๆ ต้องแกล้มด้วย”หมูคั่วเกลือ”(100 บาท) หมูสามชั้นคลุกเคล้ากับเกลือ กระเทียม พริกไทย พอใครสั่งก็นำไปทอด อีกทั้ง”ไข่เจียวปู”กรอบๆ ฟูๆ (80-160 บาท) หรือจะชิม”ปลากระบอกทอดขมิ้น” จานละ 2 ตัวโตๆ (350 บาท) ปลากะพง ปลาทราย ปลาสำลีทอดขมิ้นก็มีให้เลือกทั้งนั้น (150- 200 บาท)
ยังมีอาหารคล้ายกับภาคกลาง “ผัดพริกขิงหมู”(100 บาท) รสเข้มออกหวานนิดๆ ใส่ถั่วฝักยาวกรอบๆ “ผัดเผ็ดปลาดุกทะเลทอดกรอบๆ”ใส่กะเพรากรอบ (100 บาท) มีแม้กระทั่ง”ลูกชิ้นหมูปิ้ง”ไม้ละ 10 บาท จิ้มน้ำจิ้มน้ำตาลปี๊บเคี่ยวกับน้ำมะขาม
มีเมนูที่เรายังไม่ได้ลิ้มลอง “สะตอผัดกะปิ”ใส่กุ้งหรือหมู ซึ่งช่วงนั้นไม่มีสะตอ น่าเสียดายมาก ส่วนกลางวันมี”ขนมจีนแกงต่างๆ”ขายเป็นชุด (300 บาท) ให้ทั้งน้ำยา แกงไตปลา น้ำพริก เขียวหวานไก่ น้ำยาป่า ผักเหนาะต่างๆ และผักดอง
เครื่องดื่มของที่นี่ก็ห้ามพลาดเช่นกัน มี”น้ำมะพร้าวอัญชัน”(ลูกละ 50 บาท) ทำเป็นน้ำแข็งน้ำมะพร้าวผสมอัญชัน แล้วราดด้วยน้ำมะพร้าวอีกที และมี”ชามะนาว”(50 บาท) ทำเป็นน้ำแข็ง มีน้ำมะนาวให้เติมต่างหาก
ร้านลัคกี้เปิดทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม มีหยุดกลางเดือนไม่แน่นอน 2 วัน เขียนต้นฉบับไป ก็กลืนน้ำลายไปด้วยความอยากกินอีก
อีกร้านหนึ่งเป็นร้านอาหารทะเลชื่อดังรู้จักกันทั้งประเทศ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ร้านนี้มีชื่อว่า “ลำพู 2” ซึ่งปิ่นโตเถาเล็กเคยมาพามาชิมลำพู 3 ที่อยู่ใกล้ปากน้ำตาปีลึกเข้าไปหน่อย คราวนี้พามาลำพู 2 บ้าง วิ่งผ่านลำพู 1 ข้ามสะพานแล้วเลี้ยวขวา ร้านลำพู 2 จะอยู่ทางขวามือริมน้ำเลย ซึ่งทั้ง 3 ร้านนี้เป็นพี่น้องกัน
ลำพู 2 เปิดมานาน 30 ปีแล้ว ใครมาสุราษฎร์มักจะต้องแวะมาชิมอาหารทะเลสดๆ กันที่นี่ ต้องกิน”หอยนางรม”ตัวโตๆ จึงจะเรียกว่าถึงสุราษฎร์อย่างแท้จริง (ตัวละ 45 บาท) เนื้อหวานสดแกล้มด้วยหอมเจียวกับกระถิน จะเติมมะนาว พริกขี้หนู กระเทียม ซอสพริก น้ำจิ้มซีฟู้ด หรือแม้กระทั่งน้ำพริกเผาก็ได้ทั้งนั้น
มาทะเลกินของทะเลสดๆ ก็ฟินเว่อร์ตามภาษาวัยรุ่นแล้ว ให้สั่ง”ปูเนื้อ ปูไข่” และ”ปูม้า” ปูเนื้อส่งมาจากแพปูปลาในเมือง วันนั้นได้ตัวละ 4 ขีดโลละ 700 บาท (700-850 บาท ตามขนาด) ได้กินเนื้อผสมมันปูอร่อยมาก น่าเสียดายวันนั้นตัวใหญ่ 8- 9 ขีดไม่มี (โลละ 900 บาท) ส่วนใครชอบกินไข่ปูให้สั่ง”ปูไข่”(ที่เห็นในรูปโลละ 750 บาท มีตั้งแต่ 650-850 บาท) และยังมี”ปูม้า”สดๆ ส่งมาจากดอนสัก (โลละ 500-600 บาท)อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมี”กุ้งแม่น้ำเผา”มันเยิ้มๆ เต็มหัวจากแม่น้ำตาปี (วันนี้ได้ขนาด 5 ตัว/กิโล 950 บาท) ถ้าอยากกิน”กุ้งแชบ๊วย”ทะเลก็มีเช่นกัน เอาไปทำซอสมะขาม
ส่วนเมนูปลา ให้สั่งปลาประจำถิ่น “ปลากุเรา”เผาหอมๆ ตัวนี้หนัก 1.1 กิโล (โลละ 300 บาท) ซึ่งสั่งทำต้มส้ม ทอด หรือนึ่งก็ได้ และที่ขาดไม่ได้คือ “แกงส้มปลากะพงใส่ยอดมะพร้าว”(250 บาท) ซึ่งเลือกได้ทั้งเนื้อปลา กับราวท้องปลามันๆ หัว และกระเพาะปลาครบเครื่อง จะใส่ผักรวมหรือหน่อไม้ก็มีได้
ยังมีเมนูอีกเยอะ ทั้ง”กั้งกระดานทอดกระเทียม”(600 บาท) “ยำไข่แมงดาทะเล”(400 บาท) “กรรเชียงปูนึ่ง”(400 บาท) ทอดมันปลาอินทรี(120 บาท) ห่อหมกปลาอินทรี(ห่อละ 35 บาท) อีกทั้งใบเหลียงผัดไข่ (100 บาท) ใส่ซีอิ๊ว ปิดท้ายด้วย”กล้วยหอมทอด”อีก 1 จาน (90 บาท)
อ่านจบรีบตีตั๋วไปสุราษฎร์กันเลย แล้วจะรู้ว่าเมืองนี้มีของกินอร่อยๆ หรอยแรงมากมายจริงๆ
ข้อมูลร้าน
ลัคกี้ภัตตาคาร
โดย คุณยวงทอง(คุณยายเล็ก) ชุมถาวร
ที่ตั้ง 1 ถ.ท่าทอง ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000
โทร 0-7727-3267 0-7727-3471
เปิดบริการ 10.00-21.00 น.ทุกวัน
หยุด กลางเดือน 2 วัน ไม่แน่นอน
แนะนำ จะละเม็ดหม้อไฟ แกงส้มปลากะพงใส่เครื่องในปลา หลนไตปลา หมูคั่วเกลือ ไข่เจียวปู ปลากระบอกทอดขมิ้น ผัดพริกขิงหมู ผัดเผ็ดปลาดุกทะเลทอดกรอบๆ สะตอผัดกะปิ ลูกชิ้นหมูปิ้ง
ลำพู 2
โดย คุณดำรงค์ พันธ์สวัสดิ์
ที่ตั้ง 23/1 ปากน้ำตาปี หมู่ 3 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ. สุราษฎร์ธานี 84000
โทร 0-7728-5113 08-1677-1424
เปิดบริการ 10.00-22.00 น.ทุกวัน
หยุด เดือนละ 1 วัน (ไม่แน่นอน)
แนะนำ หอยนางรมสด ปูเนื้อ ปูไข่ ปูม้า กุ้งแม่น้ำเผา ปลากุเราเผา แกงส้มปลากะพงใส่ยอดมะพร้าว กั้งกระดานทอดกระเทียม ยำไข่แมงดาทะเล กรรเชียงปูนึ่ง กล้วยหอมทอด
