1-4กุมภาฯ อุณหภูมิลด3องศา กทม.หนาวอีกรอบ ‘เหนือ-อีสาน’วูบด้วย ปลายกพ.เริ่มฤดูร้อน


มวลอากาศเย็นจากจีนระลอกใหม่เข้าไทยอีกรอบ ภาคกลาง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ ขณะที่เหนือ-อีสานหนาวขึ้น 2-4 องศา เตือนชาวลำปางเตรียมความพร้อมเครื่องนุ่งห่มให้ร่างกายอบอุ่น รักษาสุขภาพ ระบุหลังกลาง ก.พ.หมดหนาวเข้าฤดูร้อนเป็นทางการ

เมื่อวันที่ 31 มกราคม นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 1-4 กุมภาพันธ์ บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ในช่วงวันดังกล่าวจะเกิดฝนตก 10% ในบางพื้นที่ และจะมีอากาศเย็นขึ้น ประกอบด้วย ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิลดลงราว 2-4 อาศาเซลเซียส ในช่วงเช้าจะมีหมอกและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ส่วนพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพฯและปริมณฑล จะมีอุณหภูมิลดลงราว 1-3 องศาเซลเซียส ซึ่งมวลอากาศเย็นดังกล่าวจะไม่หนาวเย็นเท่ากับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า หลังจากช่วงดังกล่าวจะมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่เกิดขึ้นอีกหรือไม่ นายวันชัยกล่าวว่า เบื้องต้นกรมอุตุฯยังตรวจไม่พบ แต่มีความเป็นไปได้อาจจะมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่เกิดขึ้นได้จนถึงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสิ้นสุดฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ

นายวันชัยกล่าวว่า ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ ซึ่งฤดูร้อนของประเทศไทยในปี 2559 จากการคาดการณ์ของกรมอุตุฯ เชื่อว่าในปีนี้จะยังคงมีปัญหาเรื่องแล้งอยู่ จากอิทธิพลของเอลนีโญ ฉะนั้นจึงขอให้ประชาชนระมัดระวังในการใช้น้ำในเรื่องของการอุปโภค และการทำการเกษตร จนถึงสิ้นสุดฤดูร้อนในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้ ในส่วนของฤดูฝนปีนี้ จากการคาดการณ์ในเบื้องต้น พบว่าจะมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่ปริมาณน้ำที่ได้ จะไม่มากในขนาดที่เติมให้เต็มเขื่อนต่างๆ ได้ เนื่องจากน้ำจะมีการไหลไปสู่ห้วย คลอง และบึงต่างๆ ด้วยเช่นกัน

Advertisement

ด้านพื้นที่ต่างๆ ที่ยังคงมีสภาพอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว อาทิ จ.พิษณุโลก บรรยากาศการท่องเที่ยวภูลมโล แหล่งท่องเที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือดอกซากุระเมืองไทย ซึ่งบานสะพรั่งกลางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เขตรอยต่อระหว่าง จ.เลย และ จ.พิษณุโลก ล่าสุดสภาพอากาศปลอดโปร่ง บนยอดภูลมโลยังคงหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 12 องศาเซลเซียส มีนักท่องเที่ยวใช้บริการรถนำเที่ยวชุมชนบ้านร่องกล้า เดินทางขึ้นมาท่องเที่ยวจำนวนมาก ขณะที่บางส่วนเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ทั้งนี้ ดอกซากุระเริ่มร่วงโรยบ้างแล้ว แต่ยังมีให้เห็นหลายจุด คาดว่านักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าชมได้ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์

ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศในช่วงเช้า บริเวณพื้นราบที่ตัวเมืองลำปางวันนี้หนาวเย็นกว่าวันที่ 30 มกราคม โดยอุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 12.5 องศาเซลเซียส ขณะที่วันที่ 30 มกราคม อุณหภูมิต่ำสุดในช่วงเช้าวัดได้ 15 องศาเซลเซียส และในช่วงกลางวันอุณหภูมิสูงขึ้นถึง 32 องศาเซลเซียส กระทั่งเริ่มลดลงในช่วงกลางคืน

นายทิวา พันธ์ไม้สี ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง กล่าวว่า ขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวระวังสุขภาพจากอุณหภูมิที่ขึ้นลง โดยในช่วงระหว่างวันที่ 1-4 กุมภาพันธ์ สภาพอากาศหนาวเย็นอีกครั้ง ซึ่งเป็นมวลอากาศหนาวระลอกใหม่ แต่จะไม่หนาวมากเหมือนกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งอุณหภูมิลดต่ำลงมาก จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ จ.ลำปาง ทั้ง 13 อำเภอ โดยเฉพาะบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ในหุบเขาและยอดดอย เตรียมความพร้อมเครื่องนุ่งห่มกันหนาว เพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงอีกครั้ง คาดว่าอุณหภูมิพื้นราบจะหนาวเย็นเฉลี่ย 11-13 องศาเซลเซียส ส่วนหุบเขาและยอดดอยจะหนาวเย็นต่ำกว่า 7 องศาเซลเซียส บางพื้นที่อาจมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ 37 จังหวัด เพื่อแจ้งให้ทราบว่าระหว่างวันที่ 2-7 กุมภาพันธ์ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมถึงบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกิดฝนฟ้าคะนองและลมแรงในระยะแรก จากนั้นอากาศจะหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศา ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพ และเพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาจากอากาศหนาวเย็นและมีลมแรงให้จังหวัดดำเนินการ 1.แจ้งเตือนประชาชนอาศัยอยู่ในพื้นที่สูงและเสี่ยงภัยทราบสภาวะอากาศนี้ในระหว่าง 2-7 กุมภาพันธ์ กระทบต่อสุขภาพชีวิตและทรัพย์สินประชาชน พืชผลทางการเกษตร ให้เตรียมป้องกันสวมเสื้อผ้าอบอุ่นให้ตัวเองและสัตว์เลี้ยงเพียงพอ และถ้าก่อกองไฟคลายความหนาวให้ระวังอัคคีภัยด้วย และถ้าเดินทางในที่มีหมอกหนาให้ปฏิบัติตามกฎจราจรโดยเคร่งครัด 2.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำชับเจ้าหน้าที่สำรวจความต้องการเครื่องกันหนาวเพื่อช่วยเหลือให้ทันสถานการณ์ หากไม่พอให้ขอรับสนับสนุนจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 3.ให้ช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงทีตามแผนป้องกันภัย และ 5.รายงานผลความเตรียมพร้อมให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทราบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image