จากกรณีที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีมติให้กระทรวงมหาดไทย(มท.)เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ว่าฯกทม.และ เอาผิดทางวินัยกับข้าราชการ กทม.ที่ถูกชี้มูลความผิดในโครงการไฟประดับ 39 ล้านบาท นั้น
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวภายหลังปฏิบัติงานร่วมกับพล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.) ที่บึงหนองบอน เขตประเวศ ว่า ตนไม่มีความกังวลใดๆ แต่เป็นห่วงผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นข้าราชการประจำที่ถูกตรวจสอบเรื่องวินัย ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายดูแลช่วยเหลือข้าราชการประจำไม่เฉพาะดูเเลแค่ส่วนของตน ทั้งนี้ สตง.เป็นเพียงหน่วยงานที่ตรวจสอบเบื้องต้น ไม่ใช่องค์กรตัดสิน สำหรับขั้นตอนการดำเนินการก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย เหมือนกับที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนโครงการอื่นๆ ของกทม.ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสตง.นั้น หน่วยงานที่ตรวจสอบก็ตรวจสอบต่อไป ขณะเดียวกันกทม.พร้อมรับฟังข้อสังเกตต่างๆ โดยที่ผ่านมา กทม.ไม่เคยไม่ให้ความร่วมมือกับสตง. และไม่กังวลในการตรวจสอบโครงการใดเป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการฟ้องร้องผู้ที่กล่าวหาหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ได้พูดตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะมีการฟ้องกลับ แต่อยากให้สำนวนมีความรัดกุมมากกว่านี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาให้ความเคารพกับสตง. และนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าฯสตง.มาโดยตลอด จึงไม่อยากทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควร
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีรถดับเพลิงขนาดเล็ก ซึ่งนายวิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีต ส.ส. กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแถลงข่าวระบุว่าเป็นรถดับเพลิงพวงมาลัยซ้าย และมีการจัดซื้อที่ราคาสูงเกินจริง
“ในประเทศไทยรถพวงมาลัยซ้ายไม่ได้ผิดกฎหมาย โดยได้จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกแล้ว และผมคิดว่าเป็นความเข้าใจผิดถึงวัตถุประสงค์ในการจัดซื้อรถดับเพลิงดังกล่าว โดยกทม.ไม่ได้นำรถกิ๊กก๊อกเล็กมาจากไหนก็ได้เพื่อใช้ดับเพลิงได้ โดยรถต้องมีอุปกรณ์ครบ ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆ และรถที่กทม.ซื้อมาถือว่าเป็นของที่ดีที่สุดในตลาด ทั้งนี้ที่ผ่านมาผมบริหารกรุงเทพมหานครเป็นไปตามกฎหมาย ตามนโยบายที่ได้หาเสียง จะไม่มีวันที่จะบริหารกรุงเทพฯตามความเห็นของสตง.เพราะว่าพี่น้องประชาชนกว่า 1.2 ล้านคนเลือกผมมาให้ดำเนินนโยบายตามที่ผมได้หาเสียงไว้ ทั้งนี้ ผมเคารพสตง.แต่ต้องขออภัยที่ ผมเคารพพี่น้องประชาชนมากกว่าเคารพสตง.” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหลือเวลาเพียงไม่กี่เดือนที่ผู้ว่าฯจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง มีโครงการใดที่ต้องเร่งรัดให้เสร็จบ้าง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า อยากทำทุกอย่างให้แล้วเสร็จไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ ตนจึงไม่กังวลเรื่องเหล่านี้ และไม่มีสิทธิกังวล เพราะพี่น้องประชาชนเลือกตนมาทำงาน ไม่ได้เลือกมาให้กังวล กุมศีรษะ เพราะโดนตรวจสอบ อีกทั้งตนมาตรงนี้ก็เพื่อทำงาน และจะทำงานต่อไป เพื่อพี่น้องประชาชนทั้งที่เลือกตนและไม่ได้เลือก ส่วนการตรวจสอบก็ดำเนินต่อไป ซึ่งส่วนนี้สามารถทำงานคู่ขนานได้
สำหรับโครงการที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะเร่งรัดให้เสร็จก่อนครบวาระ อาทิ อุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อจะต้องเสร็จ 1 มีนาคม 2560 รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายสถานนีสำโรงกำหนดเปิดใช้บริการ 1 มีนาคม 2560 หอสมุดเมืองที่กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี59
