“พุทธะอิสระ”รุกป่า ?? กรมป่าไม้ดูเจตนา พญาเสือตรวจวัดพุทธอุทยาน ผิด นิมนต์ออกทันที

จากกรณีพุทธะอิสระชี้แจงการซื้อที่ดินเนินเขาบริเวณบ้านใหม่วังผาปูน ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ กว่า 300 ไร่ ในราคาประมาณ 3 ล้านกว่าบาท โดยซื้อในนามมูลนิธิธรรมอิสระของวัดอ้อน้อย ร่วมกับบริษัท พฤกชเวช จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาสมุนไพรรักษาโรค ที่ก่อตั้งโดยมูลนิธิธรรมอิสระ พร้อมยอมรับว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นเป็นพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติและไม่มีเอกสารสิทธิ แต่มูลนิธิธรรมอิสระซื้อไว้เพื่อนำมาปลูกป่า โดยมีหน่วยงานและข้าราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้ความเห็นชอบ ตามที่เป็นข่าวนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม นายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวแล้ว โดยต้องตรวจสอบเอกสารสิทธิว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ และมีเจตนาอย่างไร จากนั้นจึงไปเทียบกับข้อกฎหมายของกรมป่าไม้ว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง โดยหลักๆ แล้วต้องดูถึงเจตนา หากเป็นพวกนายทุน จะเห็นอย่างชัดเจนว่ามีเจตนาบุกรุกเพื่อครอบครองหวังผลประโยชน์ เพราะมีการปลูกสิ่งก่อสร้าง รีสอร์ต บ้านพัก แต่กรณีนี้ต้องเข้าตรวจสอบก่อนว่ามีเจตนาอย่างไร

ด้านนายศิริ อัคคะอัคร ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานฯ กล่าวถึงกรณี บก.ปทส. เตรียมเข้าตรวจยึดพื้นที่จากวัด 10 แห่งที่บุกรุกอุทยานแห่งชาติ ว่า ทาง บก.ปทส.ได้ประสานข้อมูลและทำงานร่วมกรมอุทยานฯ มาตลอด โดยขณะนี้กรมอุทยานฯ กำลังเข้าดำเนินการตรวจสอบวัดที่อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ว่ามีรายชื่อเข้าร่วมโครงการพุทธอุทยานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือไม่ ซึ่งจะทราบข้อมูลในเร็วๆ นี้ หากตรวจสอบแล้วไม่พบรายชื่อว่าเข้าร่วมโครงการพุทธอุทยานฯ หรือมีการบุกรุกขยายพื้นที่เกินกว่าข้อตกลงและเงื่อนไขที่ทำไว้กับกรมอุทยานฯ ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504 ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ต่อไป

ด้านนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษพญาเสือ กรมอุทยานฯ กล่าวว่า สำหรับวัดในพื้นที่ป่า ถ้าขึ้นบัญชีเข้าร่วมโครงการพุทธอุทยานฯ ก็สามารถอยู่ในป่าไม้ได้ โดยไม่ขยายพื้นที่เพิ่ม แต่หากไม่ร่วมโครงการก็ถือว่าบุกรุกพื้นที่ป่า ทั้งนี้เมื่อเร็วๆ นี้ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งไปบุกรุกพื้นที่ในเขตอุทยานฯ เขาใหญ่ เนื้อที่ 15 ไร่ ซึ่งได้เข้าไปตรวจสอบและขอให้นำเอกสารมาแสดง ภายใน 30 วัน หากไม่มีหลักฐานและข้อตกลงในโครงการพุทธอุทยาน ที่ทำไว้กับกรมอุทยานฯ ตนก็จะนิมนต์ออกจากพื้นที่ต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image