แฉยิบ! “สมาคมทันตแพทย์มหิดล” จ่อฟ้อง “ม.ล.ไฮโซดัง” ฉ้อโกงเงินคอนเสิร์ตกว่า 2 ล้าน(คลิป)

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 13 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมกรรมการ อาคารเฉลิมพระเกียรติ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซอยโยธี ราชเทวี กรุงเทพฯ สมาคมศิษย์เก่าคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) พร้อมบริษัท มาสเตอร์พีซ ออร์กาไนซ์ เซอร์ จำกัด จัดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่สังคมออนไลน์แชร์การแฉทุจริตเงินคอนเสิร์ตการกุศล 48 ปี คณะทันตแพทยศาสตร์ มม. “สร้างรอยยิ้มเพื่อผู้ยากไร้และด้อยโอกาส” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2559 เวลา 14.00น. ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อนำรายได้สมทบทุนมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก สภากาชาดไทย และมูลนิธิคณะทันตแพทยศาสตร์มหิดล สำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้และด้อยโอกาสในการดูแลทางทันตกรรม อีกทั้งเพื่อจัดหาวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือทางทันตกรรม ใช้ในกิจกรรมการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ในท้องถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ แต่ปรากฏชื่อ “ม.ล.” ตัวอักษร “อ.” คนหนึ่ง เป็นที่รู้จักในสังคมชั้นสูง ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการผลิตและคณะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นำเงินหลังจัดคอนเสิร์ตประมาณ 2 ล้านบาท เข้ากระเป๋าตัวเองนั้น

ศ.คลินิก เกียรติคุณ ทันตแพทย์ นิติพันธ์ จีระแพทย์ ในฐานะนายกสมาคมศิษย์เก่าคณะทันตแพทยมหิดล และประธานคณะกรรมการจัดงานฯ กล่าวว่า ทุกปีคณะจะจัดงานใหญ่เพื่อหาเงินเข้ามูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก และมูลนิธิคณะทันตแพทยศาสตร์มหิดล ซึ่งในโอกาสที่คณะครบรอบ 48 ปี จึงอยากจัดกิจกรรมหาเงินก้อนหนึ่งเพื่อเกื้อกูลศิษย์เก่าคณะทันตแพทยศาสตร์ มูลนิธิทันตแพทยศาสตร์มหิดล และสมทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก แต่เกิดปัญหาว่าผู้ควบคุมการผลิต ซึ่งไม่รู้จักส่วนตัว แต่รู้จักผ่านลูกน้องที่เป็นกรรมการมูลนิธิมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกด้วยกัน และเห็นเป็นนักสังคมสงเคราะห์ช่วยงานมาเยอะ ทั้งของโรงเรียนจิตรลดา และงานราตรีของมูลนิธิคณะทันตแพทยศาสตร์มหิดล โดยสามารถนำศิลปินนักร้องชื่อดังของค่ายเอ็กแซ็กท์มาร้องได้ คิดว่าถ้ามาช่วยจะได้เงินบริจาคเยอะ ขณะที่ค่าใช้จ่ายจัดงานก็จะไม่แพง ทั้งนี้ ตอนแรกจะไม่จ้างออร์แกไนซ์ หากมีค่าใช้จ่ายให้บวกร้อยละ 10 เป็นค่าดำเนินการ โดยผู้ควบคุมการผลิตตอบตกลง และนำรายชื่อศิลปิน 8 คนมาให้ดู พอเห็นรายชื่อก็คิดว่าน่าจะขายบัตรได้มากไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ไม่รวมค่าสปอร์เซอร์ ขณะที่ทางสมาคมได้ตั้งงบประมาณในการจัดงาน 3.5 ล้านบาท รวมค่าแถลงข่าวอีก 1 แสนบาท

ศ.คลินิก เกียรติคุณ ทันตแพทย์ นิติพันธ์ กล่าวว่า ต่อมาอีก 2 เดือน ผู้ควบคุมการผลิตมีการเบิกเงินเป็นระยะๆ 3 แสนบ้าง 4 แสนบ้าง โดยตั้งแต่ 17 กุมภาพันธ์ถึง 25 เมษายน เบิกเงินรวม 2.6 ล้านบาท แต่ไม่มีการทำใบเสร็จ เพราะความไว้วางใจจริงๆ ปรากฏว่าพอถึงวันงานคอนเสิร์ตจริง งานไม่ได้ดั่งใจ อยากให้มีวงดนตรีที่อลังการก็ไม่ได้เรื่องเลย ดนตรีมีเล่นแค่ 5 ชิ้น แสงสีเสียงก็ธรรมดา พอจบงานผู้ควบคุมการผลิตก็มาเบิกเงินส่วนที่เหลืออีก 9 แสนบาท เพื่อให้ครบ 3.5 ล้านบาท

“ตอนนั้นเราเครียด พยายามอดทนจนจบงาน ตั้งใจว่าจะไม่คุยกับเขาอีกแล้ว เลยให้คณะกรรมการไปช่วยจัดการ เนื่องจากรายจ่ายไม่สมเหตุสมผล โดยมอบอำนาจให้ทพ.ประดิษฐ์ เจษฎาไกรสร เลขาธิการสมาคมศิษย์เก่าคณะทันตแพทยศาสตร์ได้ต่อรอง” ทพ.นิติพันธ์ กล่าว

Advertisement

ทพ.นิติพันธ์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักนายประดิษฐ์ สมดังเจตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท มาสเตอร์พีซฯ มาก่อน จนในวันแถลงข่าวที่มีศิลปินชื่อดังมาร่วมแถลงข่าว ได้เจอนายประดิษฐ์ที่มาช่วยจัด มากระซิบบอกว่าได้บริจาคเงินให้มูลนิธิ 2.6 แสนบาท ตนยังงงว่าบริจาคให้ทำไม ในเมื่อจ่ายค่าจัดแถลงข่าว 1 แสนบาทไปแล้ว อย่างไรก็ดี ได้ยอดบริจาคบัญชีคอนเสิร์ตประมาณ 7 ล้านกว่าบาท ซึ่งได้มอบให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยากไปแล้วบางส่วน นอกจากนี้ทางสมาคมได้ทำหนังสือไปยังซีเนริโอกกับเอ็กแซ็กท์ พบว่าไม่มีเงินโอนเข้าบริษัท แต่มีการใส่ซองให้ศิลปิน ซึ่งไม่ทราบว่าได้คนละเท่าไหร่

ทพ.ประดิษฐ์ เจษฎาไกรสร เลขาธิการสมาคมศิษย์เก่าคณะทันตแพทยศาสตร์ กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียดจัดงานมาก แต่มีคนโทรมาบอกว่าค่าใช้จ่ายแพง ราคาไม่เหมาะสม เลยช่วยคุยกับทางผู้ควบคุมการผลิต ทั้งนี้ ตนเอะใจค่านักร้อง 1.5 ล้านบาทที่มีทั้งหมด 8 คน ว่าเป็นงานการกุศลอย่างนี้ไม่น่าแพง พอดีมีคนไข้เป็นนักดนตรีได้คุยกับเรื่องนี้บอกว่าไม่น่าจะถึง ปกติมาร้องเพลง 10 คนก็ประมาณ 1 แสนบาท ส่วนคอนเสิร์ตมีเกือบ 30 เพลง คนหนึ่ง 2 เพลงก็ไม่น่าเกิน 3 หมื่น 8 คนน่าจะอยู่ที่ 4.8 แสน ซึ่งงานใหญ่อย่างนี้คูณให้สองเท่าและน่าจะอยู่ประมาณ 1 ล้านบาท แต่ทางผู้ควบคุมการผลิตแจ้งมา 1.5 ล้านบาท เลยต่อรองราคาลงมาเหลือ 5 แสนบาท แต่ผู้ควบคุมการผลิตบอกว่าไม่ได้เพราะกดราคามาให้แล้ว ตนจึงให้บริษัทซีเนริโอส่งใบค่าตัวนักร้องมา แต่ผู้ควบคุมการผลิตก็ไม่มี คุยไปสักพักเขาก็ทำรายการมาว่าค่านักร้องเหลือ 8 แสนบาท ก็ต่อรองครั้งสุดท้ายได้ล่าสุดที่ 2.5 แสนบาท ก็แจ้งอ.นิติพันธ์เพราะคิดว่าจบแล้ว พอดีว่านายประดิษฐ์โทรมาหาก่อน เรื่องจึงยังไม่จบ

ขณะที่ นายประดิษฐ์ สมดังเจตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท มาสเตอร์พีซฯ ในฐานะออร์แกไนซ์จัดคอนเสิร์ตการกุศลนี้ กล่าวว่า ตนรู้จักผู้ควบคุมการผลิตในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องที่คณะอัษรศาสตร์ จุฬาฯ ตนทำงานในวงการบันเทิงและออร์แกไนซ์มากว่า 30 ปี ก็ได้นัดพบเพื่อพูดคุยกันที่สยามพารากอน โดยมีรุ่นพี่คนนี้ กับเจ้าหน้าที่ของคณะ ชื่ออักษรย่อ ห. และนักข่าวสายราชสำนักชื่ออักษรย่อ ป. เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ รุ่นพี่ก็มาเล่าถึงงานดังกล่าว ตนก็ตอบรับว่ายินดีจะช่วยเพราะบริษัทของตนก็แบ่งเงินส่วนหนึ่งช่วยเหลือองค์กรการกุศลทุกปีอยู่แล้ว โดยรุ่นพี่ให้ตนดูแลด้านโปรดักซ์ชั่น อยู่มาวันหนึ่งมีการแถลงข่าวขึ้นมา ตนไม่รู้มาก่อนแต่ก็มาจัดงานให้ จนได้พบอ.นิติพันธ์ก็เข้าไปบอกว่า งานวันนี้ใช้เงิน 2.6 แสนบาท ซึ่งทั้งหมดตนขอบริจาค แต่ขอเพียงใบอนุโมทนาบัตร จำได้ว่าต่างคนต่างมองหน้างงกันไปงงกันมา

Advertisement

นายประดิษฐ์กล่าวอีกว่า หลังจากผ่านการจัดงานไป 1 เดือนตนได้สอบถามไปยังผู้ควบคุมการผลิต ขอใบอนุโมทนาบัตร เพราะตนเอาเงินออกมาจากบริษัทต้องเอาหลักฐานไปชี้แจง ซึ่งทวงถามไปหลายครั้งก็ยังไม่ได้ ผ่านไปอีกเดือนได้ทวงถามกับผู้ควบคุมการผลิตบอกว่า “ตอนนี้พี่คุยกับทางสมาคมไม่ได้ เพราะทะเลาะกับอาจารย์แล้ว” ตนจึงโทรไปคุยกับผู้จัดการมูลนิธิบอกว่ามูลนิธิจะออกใบขอบคุณให้ แต่ตนไม่ต้องการเพราะอยากได้ใบอนุโมทนาบัตร แต่ทางมูลนิธิให้ไม่ได้เนื่องจากมีการเบิกจ่ายไปแล้ว และนั่นคือสิ่งที่ตนต้องลุกขึ้นมาหาความจริง จากนั้นตนได้ติดต่อกับอ.นิติพันธ์จึงได้เห็นเอกสารสำคัญ 5ใบ ซึ่งทำให้รู้สึกไม่สบายใจ เพราะคำนวณค่าใช้จ่ายจัดงานทั้งหมดไม่น่าเกิน 4 แสนต้นๆ ด้วยซ้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประดิษฐ์ได้ให้ทีมงานนำเอกสารที่สามารถเผยแพร่ได้แจกให้ผู้สื่อข่าวจำนวน 3 แผ่น ประกอบด้วยเอกสารรายละเอียดค่าใช้จ่ายฝ่ายผลิต รายละเอียดค่าดนตรี ค่าศิลปินนักร้องและค่าบริหารจัดการ รวมเป็นเงิน 1,455,000 บาท ขณะที่นายประดิษฐ์ได้ยกตัวอย่างรายการค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่าห้องซ้อมดนตรีในเอกสารระบุเหมารวม 3 วันราคา 13,500 บาท แต่การซ้อมเกิดขึ้นจริงแค่ครั้งเดียวที่ห้องซ้อมที่อาร์ซีเอ ค่าเรียบเรียงเสียงประสานตามปกติ 5 พันบาท แต่เพลงที่ใช้ในคอนเสิร์ตไม่ได้นำมาเรียบเรียงใหม่เลย เพราะนำเพลงที่ศิลปินร้องอยู่ประจำมาร้อง ส่วนค่ารถตู้รับส่งศิลปินทั้งงานวันซ้อมและงานวันจริง 3.8 หมื่นบาท แต่ค่าใช้จ่ายตรงนี้ไม่มี เพราะศิลปินขับรถมาเอง และที่ติดใจคือ มีค่าบริหารจัดการฝ่ายผลิตแล้ว ทำไมต้องมีค่าบริหารจัดการอีก 4 แสนบาท ตรงนี้เกิดยังขึ้นได้ยังไง ทั้งที่ตนเป็นฝ่ายผลิต
“พิจารณาจากเอกสารค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว ผู้ควบคุมการผลิตมีเงินเหลือจากการจัดคอนเสิร์ตการกุศลประมาณ 2.5-2.8 ล้านบาท” นายประดิษฐ์กล่าว

นายประดิษฐ์เล่าต่อว่า หลังได้เอกสารมาตนได้พยายามติดต่อสอบถามไปยังผู้ควบคุมการผลิต ส่งผ่านไลน์ไป 1 วันไม่ตอบ จนมาอีกวันเขาโทรมาว่าจะคืนเงิน 7 แสน แต่ให้ไปรับกับสมาคม ที่ยังไม่จ่ายเงินก้อนสุดท้ายให้ผู้ควบคุมการผลิต แต่ตนไม่รับเพราะจะถูกมองว่าร่วมขบวนการด้วย และจริงๆ ตั้งใจจะบริจาคเงินให้กับสมาคมอยู่แล้ว ขอเพียงใบอนุโมทนาบุญ แต่ทางผู้ควบคุมการผลิตยังโทรมาเจรจาให้รับเงินเพื่อให้เรื่องจบไป ทั้งนี้ ตนได้ตั้งคำถามไปว่า รู้ตอนไหนว่ามีเงินตั้งไว้ 3.5 ล้าน เพราะพบว่ามีหลักฐานการเบิกจ่ายเงินครั้งแรกช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ แต่มาคุยกับตนว่าเป็นงานการกุศลไม่มีงบประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ แต่ผู้ควบคุมการผลิตก็ตอบไม่ได้ เพียงแต่ขอโทษมา อย่างไรก็ตาม ตนได้เตือนให้เขาพิจารณาให้ดีและเอาเงินไปคืนสมาคมทั้งหมด แล้วมาตกลงกันทั้ง 3 ฝ่าย โดยบอกว่าเขาพิจารณาให้ดี ก่อนที่ตนจะตัดสินใจทำอะไร เขาก็ถามว่าจะทำอะไร ตนก็บอกไม่ทำอะไรร้ายแรงหรอก หลังจากนั้นตนก็โพสเฟซบุ๊คจนกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์

แต่เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างนั้น ตนถูกอีกฝ่ายเอาไปพูดว่าตกงานไม่มีงานทำ วิ่งไปหาเขา เขาสงสารพาไปพบอาจารย์แล้วให้ช่วยทำงานนี้ แต่เหตุผลฟังไม่ขึ้นเพราะนี่คืองานการกุศล ถ้าตนตกงานจริงจะออกเงินไปถึง 7 แสนบาทเลยเหรอ พอเหตุผลที่เขาอ้างฟังไม่ขึ้นก็เปลี่ยนประเด็นว่าเป็นการเข้าใจผิด ทั้งนี้ อยากเรียกร้องความยุติธรรมที่เงินบริจาคหายไปไหน จึงมาคุยกับอาจารย์ที่คณะ ซึ่งทางสมาคมก็เสียหาย ตนเองก็เสียชื่อเสียง ตนอยากยืนยันในสิ่งที่พูดว่าจริงและแสดงความบริสุทธิ์จึงไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ส่วนทางสมาคมทราบว่าได้ไปลงบันทึกประจำวันเช่นกันที่สน.พญาไท วันที่ 12 กรกฎาคม ทั้งนี้ ตนจะร่วมกับสมาคมดำเนินคดีทางกฎหมายคู่ขนานกันไป ขณะที่สมาคมยังได้ตั้งคณะกรรมการสอบเจ้าหน้าที่คณะชื่ออักษรย่อ ห.ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่

“ตอนนี้ไม่เจรจาแล้ว ให้เป็นหน้าที่ของทนายความในการฟ้องร้องผู้ควบคุมการผลิตในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งต้องบอกว่าเขาทำงานกันเป็นทีม และผมก็มีหลักฐานทั้งในโอนเงินที่โอนเข้าบัญชีผู้ควบคุมการผลิตเป็นระยะ คลิปบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ความยาวครึ่งชั่วโมงที่คุยกับเขา เรื่องนี้จบในชั้นศาล จะขอเจรจาในชั้นศาล” นายประดิษฐ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคอนเสิร์ตดังกล่าว ได้ศิลปินจากเวทีเดอะสตาร์ เช่น กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ, โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม, แกมส้ม-ธนทัต ชัยอรรถ, แก้ม-วิชชาณี เปียกกลิ่น รวมถึงศิลปินเวทีเคพีเอ็น ได้แก่ อาร์ม-กรกันต์ สุทธิโกเศศ รวม 8 คนมาร่วมขับร้องใน 29 เพลง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image