เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนามคำสั่งที่ 38/2559เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่10/2559 และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 11/2559 ดังนี้ ตามที่มีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 10 /2559 เรื่องการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ลงวันที่ 21 มีนาคม 2559 และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 11/2559 เรื่องการบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ลงวันที่ 21 มีนาคม 2559 ยังมีข้อขัดข้องในการดำเนินการ จึงควรแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งให้การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา และการบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 มีคำสั่งให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค (คปภ.) เพื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (อกศจ.) คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานคณะต่างๆ โดยการเสนอคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงาน ต้องเป็นไปตามความจำเป็น โดยคำนึงถึงวงเงิน งบประมาณที่ได้รับ ความคุ้มค่า และความประหยัด เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของ กศจ.นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ ศธภ.เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ในสำนักงาน ศธภ.ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการ ศธ.โดยอาจให้มีรองศึกษาธิการภาคเพื่อช่วยเหลืองานศึกษาธิการภาคก็ได้
นพ.กำจรกล่าวว่า คำสั่งนี้ออกมาเพื่อให้การทำงานมีความชัดเจนว่าอำนาจการแต่งตั้ง อกศจ., อนุกรรมการ และคณะทำงานใน กศจ.เป็นอำนาจของใคร เพราะที่ผ่านมามีการตีความในเรื่องนี้จนทำให้เกิดความขัดแย้ง
