ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ ขีดเส้น19 รีสอร์ตรุกที่ภูทับเบิกรื้อถอน หากรัฐรื้อเองนายทุนต้องจ่าย

พ่อเมืองเพชรบูรณ์เผยสภาพอาคารรีสอร์ต 19 แห่งที่ถูกสั่งรื้อถอน พบรอยเคลื่อนของดินหลังฝนตก หวั่นนักท่องเที่ยวเที่ยวไม่ปลอดภัย

วันนี้ (13 ก.ค.) นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการ ตามมาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ว่า จากการปฏิบัติการที่ผ่านมาอยากเรียนว่ารีสอร์ต 19 รายที่ไปปิดคำสั่ง สภาพบางอาคารในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกและพบเห็นร่องรอยในเรื่องของดินเริ่มเคลื่อนตัว เพราะฉะนั้นการดำเนินการในครั้งนี้ก่อให้เกิดความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่อาจจะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูทับเบิกและจองที่พักผ่านทางออนไลน์อินเตอร์เน็ตอาจเกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ยังเป็นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่มีการประทำผิดหลังศาลมีคำพิพากษาแล้ว เพื่อบังเกิดผลจริงและเป็นประโยชน์ต่อชาวภูทับเบิกและประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์กล่าวอีกว่า ในขั้นตอนการทำงานจะมีการแจ้งให้เจ้าของหรือผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามให้รับทราบว่าคณะเจ้าหน้าที่จะเข้าไปดำเนินการภายในวันไหน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเก็บทรัพย์สินหรือสิ่งของหากเจ้าของไม่เก็บคณะเจ้าหน้าที่ก็จะทำการเก็บเอง และเมื่อรื้อถอนเสร็จก็จะขอค่ารื้อถอนเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินการคืน

“ส่วนกระแสการต่อต้านหากจะมีก็เฉพาะกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ และไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแล้วก็ละเลยเพิกเฉยต่อคำพิพากษา เพราะฉะนั้นขบวนการที่หน.คสช.ได้ออกคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด, นายอำเภอหล่มเก่า, ผอ.สำนักฯที่ 4, โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดรวมทั้งพัฒนาสังคมเป็นเจ้าหน้าที่เป็นเครื่องมือที่สามารถเข้าไปดำเนินการ ให้สามารถบังคับใช้กฎหมายบังเกิดผลได้อย่างจริงจังและรวดเร็ว เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย”นายบัณฑิตกล่าว

Advertisement

นายบัณฑิตย์กล่าวอีกว่า สำหรับพี่น้องชาวภูทับเบิกจะไม่ได้รับผลกระทบเพราะนโยบายทางรัฐบาลมอบให้ 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินของถูทับเบิกสำหรับในอนาคตเพื่อให้การพัฒนาบนภูทับเบิกเป็นไปด้วยความถูกต้อง มีการจัดระเบียบและจัดระบบการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ที่ดินและให้เกิดความยั่งยืนในการพัฒนาพื้นที่ในอนาคตต่อไป

นายบัณฑิตย์ยังตอบข้อถามถึงกรณีที่เจ้าของหรือผู้ประกอบการโต้แย้งให้รื้อรีสอร์ตบนภูทับเบิกให้หมดถึงจะรับได้ด้วยว่า เป็นบุคคลที่คิดเห็นประโยชน์แต่ส่วนตน ในการดำเนินการนั้นจะดำเนินการกับผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจนทั้งเรื่องคุณสมบัติของคนที่อยู่บนภูทับเบิก ผู้ประกอบการชัดเจนที่ไปบุกรุกพื้นที่ป่า การก่อสร้างอาคารที่พักที่หวังผลประโยชน์ทางธุรกิจ อาคารที่ไม่มั่นคนแข็งแรงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัย เพราะหากไม่ดำเนินการก็จะประสบปัญหาว่าภูทับเบิกเป็นการบริการท่องเที่ยวที่ขาดการควบคุมและเกิดปัญหาทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและปัญหาต่างๆอีกมากมาย โดยภูทับเบิกเป็นสมบัติของคนไทยทั้งชาติ เป็นพื้นที่สำคัญเพราะอยู่ในพื้นที่ป่าที่ต้องสงวนรักษาไว้ และต้องฟื้นฟูให้เป็นธรรมชาติเหมือนเดิม

ข่าวแจ้งว่า สำหรับเป้าหมายรีสอร์ตที่คณะเจ้าหน้าที่จ่อจะเริ่มดำเนินการรื้อถอนเป็นอันดับแรก ได้แก่ รีสอร์ตโรงเตี้ยมซึ่งมีนายกุญธ์ภัสส์ หรือ กุลพักตร์ พัฒนารุ่งฉัตรรุจ เป็นผู้ประกอบการ ตั้งอยู่หมู่ที่ 16 บ้านทับเบิก ต.วังบาล โดยมีการให้เหตุผลว่า เป็นรีสอร์ตแห่งแรกของภูทับเบิกที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2554 และยังเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่ศาลมีคำพิพากษาตัดสินเป็นรายแรกอีกด้วย จึงเห็นสมควรรื้อถอนรีสอร์ตนี้เป็นแห่งแรก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image