เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่สน.บางซื่อ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. หัวหน้า ศปจร.น. พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล รองผบก.น.4 พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รองผกก.สส.สน.โชคชัย ร่วมแถลงผลการจับกุม นายวิทยา หรือไนท์ พันแสดง อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา มี นายชาคริต หรืออ๊อด เอี่ยมมี อายุ 19 ปี นายบุญญฤทธิ์ หรือเจ แก้วมณี อายุ 19 ปี และ น.ส.กนกพร หรือแนน มณีประเสริฐ อายุ 21 ปี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น MSX สีขาว ทะเบียน 4กน-3027กรุงเทพมหานคร, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีดำ ทะเบียน 3กง-7563 กรุงเทพมหานคร, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาวแดง ทะเบียน กช2190กรุงเทพมหานคร, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1กก5680 สิงห์บุรี , ป้ายทะเบียน 3กณ-493กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบเป็นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า MSX สีดำ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา น.ส.ชลธิชา พุ่มโต อายุ 27 ปี มาแจ้งความที่สน.โชคชัย ว่ามีคนร้ายลักรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น MSX สีขาว ทะเบียน 5กณ-3027กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้านน่านั่ง ปากซอยลาดพร้าว 85 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. ต่อมาเจ้าหน้าที่ทราบว่านายวิทยาเป็นหนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงจับกุม
จากการสืบสวนทราบว่าในคดีดังกล่าวมีผู้ร่วมก่อเหตุหลายคน โดยนายบุญญฤทธิ์และน.ส.กนกพร เป็นสามีภรรยากัน จะทำหน้าที่สั่งการและส่งรถจักรยานยนต์ที่ได้มาจากการก่อเหตุให้กับนายทุน จากนั้นจะนำเงินที่ได้จากการขายรถมาแบ่งให้กับนายวิทยา นายชาคริต นายสหพันธ์ หรือโย่ง กิจประสงค์(หลบหนี) และนายอภินันท์ หรือดำ หนูจันทร์(หลบหนี) ที่ทำหน้าที่ลักรถจักรยานยนต์ ซึ่งก่อนก่อเหตุแต่ละครั้งจะนัดรวมตัว เพื่อประชุมวางแผนกันที่บ้านเช่าของนายบุญญฤทธิ์และน.ส.กนกพร บริเวณภายในซอยลาดปลาเค้า 66 ภายหลังเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายชาคริต นายบุญญฤทธิ์ และน.ส.กนกพร พร้อมของกลาง จึงนำส่งพนักงานสอบสวนสน.โชคชัย ดำเนินคดี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่สน.โชคชัย และพื้นที่สน.ใกล้เคียง โดยจะเลือกสถานที่ที่ไม่มีผู้คนมากนัก และเลือกรถจักรยานยนต์ที่ไม่มีดิสเบรก เนื่องจากสามารถขโมยได้ง่าย แล้วจะนำรถที่ลักมาทั้งหมดไปมอบให้กับนายทุนที่ชื่อขุน(ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) พักอยู่บนิเวณพระราม 2 และนำเงินทั้งหมดมาแบ่งกัน โดยก่อเหตุมาประมาณ 3 เดือน ลักรถจักรยานยนต์ไปประมาณ 30 คัน
ทั้งนี้ยังมีผู้ต้องหาที่หลบหนี จำนวน 2 ราย คือ นายสหพันธ์ หรือโย่ง กิจประสงค์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1399/2559 ลงวันที่16 กรกฎาคม 2559 และนายอภินันท์ หรือดำ หนูจักทร์ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1400/2559 ลงวันที่16 กรกฎาคม 2559 ซึ่งมีประวัติถูกจับกุมที่สน.สุทธิสาร เมื่อวันที่11 กรกฎาคม 2556 ในข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายฯ
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า อยากฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ว่าให้หาซื้อดิสเบรกเพราะหากรถจักรยานยนต์คันไหนมีดิสเบรกจะทำให้ผู้ก่อเหตุไม่สามารถก่อเหตุได้เนื่องจากมีความยากลำบากในการเคลื่อนย้าย
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สน.โชคชัย ทำการแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือร่วมกันรับของโจร ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
