‘ช.การช่าง’ชงแก้ 1.5 แสนคนป่วน อาสาวิ่งรถไฟฟ้า’เตาปูน-บางซื่อ’ให้ก่อน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ช.การช่าง เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจรับเหมาก่อสร้างว่า ในปี 2559 อยู่ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว งานด้านก่อสร้างและงานโครงสร้างสาธารณูปโภคกำลังทยอยออกมา หลายโครงการเริ่มมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ในปีนี้จะมีออกมาอีก โดยมีมูลค่าหลายแสนล้านบาท ขณะที่ธุรกิจวัสดุก่อสร้างก็จะมีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าภาครัฐผลักดันโครงการออกมาได้ตามแผนงาน ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ดีของธุรกิจก่อสร้าง

“สำหรับ ช.การช่าง ได้เตรียมความพร้อมของกลุ่มบริษัทมาหลายปีแล้ว ดังนั้นในปี 2559 จึงค่อนข้างพร้อมทั้งกำลังบุคคล เครื่องมือ และขีดความสามารถด้านเงินลงทุน เราพร้อมจะรับงานเพิ่มได้อีกพอสมควร รวมถึโครงการใหญ่ด้านคมนาคมของรัฐ มีการร่วมมือเป็นบริษัทอยู่แล้ว เช่น ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีอีเอ็ม” นายปลิวกล่าว

นายปลิวกล่าวอีกว่า โครงการใหญ่ของบีอีเอ็มในปีนี้มี 2 โครงการ คือ 1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม 2.ทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก จะเปิดใช้งานในเดือนกรกฎาคม ส่วนนี้หลายคนเข้าใจว่าจะปิดถนนบรมราชชนนีนาน 3 เดือน แต่ความจริงแล้วจะปิดถนนไม่มาก และปิดเป็นช่วงๆ ไม่ได้ปิดยาว กรณีนี้ปิดถนนแค่เลนเดียว ช่วงเวลากลางคืนถึงประมาณ 05.00 น. ส่วนโครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช และมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรีนั้น บีอีเอ็มสนใจและพร้อมแล้ว กำลังรอแต่รัฐบาลเท่านั้น

“ในเรื่องการลงทุน แย่สุดคือรถไฟฟ้า เพราะจริงๆ พอเข้าปีที่ 7 น่าจะพอมีกำไร ตอนนี้ขาดทุนมา 11 ปี รวม 12,000 ล้านบาท แต่ปีนี้สายสีม่วงเริ่มเปิด น่าจะมาช่วยพยุง คิดว่าปี 2560 จะเริ่มมีกำไร” นายปลิวกล่าว

Advertisement

ทางด้านนายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ ช.การช่าง กล่าวถึงกรณีรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ผู้โดยสารต้องลงตรง สถานีเตาปูน แล้วต้องเดินหรือนั่งรถประจำทางไปยังสถานีบางซื่อ เพราะการบริการรถไฟฟ้าไม่ครบวงรอบว่า ความจริงระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน ระบบเส้นทางจะวิ่งเป็นวงกลม ซึ่งตอนนี้มีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน คือจากหัวลำโพงวิ่งไปบางซื่อ ที่เหลือรัฐบาลจะต้องทำส่วนต่อขยายทั้งหมดให้เป็นวงกลม คือ จากบางซื่อวิ่งเข้าจรัญสนิทวงศ์มาบรรจบที่ท่าพระ จากหัวลำโพงจะลอดแม่น้ำเจ้าพระยามาบรรจบที่ท่าพระ ในส่วนของรถไฟฟ้าในเมืองโดยหลักจะวิ่งเป็นวงกลม แล้วมีเส้นตัดเป็นแนวรัศมี เช่น สายสีม่วง จะเป็นเส้นตัดในแนวรัศมี จากบางซื่อ-เตาปูน ตัดไป นนทบุรี-บางใหญ่ แต่ปัญหาคือสายสีน้ำเงินกับสายสีม่วงที่ควรจะต่อกันทางรางได้ กลับทำกันคนละระดับคือบนฟ้ากับใต้ดิน ส่วนบางซื่อมาถึงเตาปูนควรจะเป็นสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายก็ยังทำไม่เสร็จ

“ประเด็นคือรถไฟฟ้าสายสีม่วงกำลังจะเปิดใช้ในเดือนสิงหาคม 2559 เมื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงวิ่ง ตรงบริเวณระหว่างสถานีบางซื่อกับสถานีเตาปูน ระยะทาง 1 กิโลเมตรจะไม่มีรถไฟฟ้าวิ่ง ถือเป็นการวางแผนที่ผิดมาโดยตลอด ขณะนี้พยายามจะเอาระยะทาง 1 กิโลเมตรนี้ไปรวมกับสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย แต่เบื้องต้นในเดือนสิงหาคมจะต้องหารถมาวิ่งเชื่อมระหว่าง 2 สถานีดังกล่าวก่อน ไม่เช่นนั้นคนที่ใช้บริการซึ่งมีประมาณ 150,000 คนต่อวัน เมื่อมาลงรถไฟฟ้าที่เตาปูนแล้วจะต้องเดินหรือต่อรถเมล์เพื่อไปที่บางซื่อ”

นายพงษ์สฤษดิ์กล่าวว่า ปัญหาเรื่อง 1 กิโลเมตรที่ไม่มีรถไฟฟ้าเชื่อมต่อนี้จะต้องรีบแก้ หากปล่อยเวลายิ่งผ่านไปประชาชนยิ่งเดือดร้อนเพราะถึงรัฐบาลอนุมัติแล้วก็ต้องใช้เวลา 13-15 เดือนในการก่อสร้าง ต้องใช้เวลาในเรื่องความปลอดภัย รวมทั้งทดลองใช้งานต่างๆ ด้วย เพื่อให้การใช้งานปลอดภัยที่สุดไม่ใช่ใช้ไปแล้วหยุด ในช่วงนี้จะมีคน 150,000 คน ต้องตกค้างทั้งขาเข้าขาออก 1 กิโลเมตร

Advertisement

“เราเจรจากับรัฐบาลว่ายินดีจะลงทุนทำให้ก่อน โดยเอารถไฟฟ้าหัวลำโพง-บางซื่อ วิ่งต่อเพิ่มมาอีก 1-2 สถานี แล้วระหว่างนี้ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเราออกให้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน แล้วถ้าอนาคตส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินไม่ใช่บีอีเอ็มดำเนินการ เราก็ขอเงินคืน แต่ถ้าใช่ก็เอาการลงทุนทั้งหมดไปรวมกับเงินลงทุนสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ซึ่งไม่ได้คิดกำไรเลยแค่อยากลงทุนให้ก่อนเพื่อเปิดใช้งานให้ทันสายสีม่วงในเดือนสิงหาคม แต่บางคนไม่เข้าใจ คิดว่าเราเล่นเกม คิดว่าเอกชนจะได้เปรียบ ถ้าบีอีเอ็มลงทุนทำ 1 สถานีตรงนี้จะทำให้มีโอกาสในการเจรจาส่วนต่อขยายได้ แต่ไม่ใช่ การที่เดินรถ 1 กิโลเมตรตรงนี้ไม่ใช่เราจะได้ส่วนที่เหลือ คนอื่นยังเข้ามาทำได้ ถ้าจะเล่นเกม จะบอกไปทำไมว่าถ้าไม่ได้โครงการนี้ค่อยให้จ่ายคืน” นายพงษ์สฤษดิ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image