ไขข้อข้องใจ! เหตุหลอดเลือดสมองแตก ทำวูบเสียหลัก ขับรถพุ่งชน ‘ศาลพระพรหมเอราวัณ’

นพ.สมชาย โตวณะบุตร แพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิทางอายุรกรรม สาขาประสาทวิทยา สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุรถเก๋ง เสียหลักพุ่งเข้าชนศาลพระพรหมเอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยมีนางคนึงนิจ เตโชฬาร เป็นคนขับ สาเหตุมาจากหมดสติกะทันหัน จากเส้นเลือดใหญ่ในสมองแตกเฉียบพลันว่า จากที่ทราบข่าวพบว่ามีสาเหตุจากเส้นเลือดสมองแตก ซึ่งเมื่อเกิดภาวะดังกล่าวทำให้หมดสติ และวูบทันที อย่างไรก็ตาม อาการของเส้นเลือดสมองแตกนั้น ไม่ทราบสาเหตุโดยตรง แต่มีหลายสาเหตุ หลักๆ 1.เส้นเลือดมีความบกพร่องตั้งแต่แรกเกิด กระทั่งถึงเวลาหนึ่งเส้นเลือดเสื่อมจนเกิดภาวะแตกได้ 2.ความดันโลหิตสูง ทำให้เส้นเลือดพองตัว และเมื่อถึงจังหวะหนึ่งเส้นเลือดแข็งตัว ประกอบกับความดันโลหิตสูงมากๆ ก็ทำให้เกิดภาวะแตกได้ ซึ่งกรณีนี้พบมากที่สุด และ 3.เกิดการติดเชื้อหลังอุบัติเหตุทางศีรษะ ทำให้เส้นเลือดเสีย ซึ่งพวกนี้ไม่มีสัญญาณเตือนบอกล่วงหน้าได้ ยกเว้นกรณีเส้นเลือดโป่งพองและไปกดทับเส้นประสาท ก็จะแสดงอาการปวดต่างๆ ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดกรณีวูบหมดสติเหมือนกรณีขับรถชนพุ่งศาลพระพรหมเอราวัณ นพ.สมชายกล่าวว่า อย่ากังวลเกินไป สิ่งที่ต้องระวังคือ หากมีโรคประจำตัว อย่างโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจเต้นผิดปกติ ไขมันในเส้นเลือดสูง สิ่งเหล่านี้ป้องกันได้ โดยเฉพาะความดันโลหิตสูง ต้องดูแลตัวเอง การรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง และต้องหมั่นตรวจสุขภาพ เช็กอาการกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ โดยอายุที่ควรเริ่มตรวจร่างกายต้องเริ่มตั้งแต่อายุ 30 ปี จริงๆ ตรวจได้ทุกช่วงวัย โดยเฉพาะการตรวจน้ำตาลในเลือด ตรวจวัดความดันโลหิต ยิ่งคนที่มีประวัติพ่อแม่มีโรคประจำตัวดังกล่าว ยิ่งต้องมาตรวจสุขภาพ เพื่อควบคุมและป้องกันการเกิดโรค หรือชะลอให้เกิดช้าที่สุดได้

“โดยเฉพาะในเรื่องความดันโลหิตสูง หลายคนมีการปฏิบัติตัวผิด อย่างการกินยาความดันโลหิต เมื่อแพทย์ให้ยาไปทานต่อเนื่องจนหมด แต่คนไข้มักจะไปหาซื้อเอง และไม่ยอมมาตรวจซ้ำ ซึ่งตรงนี้ต้องระมัดระวัง เนื่องจากเราอาจไม่ทราบว่าความดันโลหิตของเรามีการเพิ่มหรือลดมากน้อยแค่ไหน และการปรับยา ควรมีการลดหรือเพิ่ม หรือปรับอย่างไรให้เหมาะสมกับร่างกาย ดังนั้น แนะนำว่าควรพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าต้องมีการปรับยาอย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จริงๆ ป้องกันได้ หากควบคุมความดันโลหิตดีๆ ก็จะลดโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ ฯลฯ ” นพ.สมชายกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ประเทศไทยพบโรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 รองจากโรคมะเร็งและโรคหัวใจตามลำดับ และยังพบว่าเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดของโรคทางระบบประสาท ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตหรือความพิการ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง พบได้ประมาณร้อยละ 80 และหลอดเลือดสมองปริแตกหรือฉีกขาด พบได้ประมาณร้อยละ 20 หากประชาชนรู้จักดูแลตนเองและหมั่นสำรวจความผิดปกติของร่างกายอยู่เสมอ จะสามารถป้องกันและลดความรุนแรงของโรคดังกล่าวได้ โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ ภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง อายุที่มากขึ้นหลอดเลือดจะเสื่อมตามไปด้วยการสูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกายที่เหมาะสม ภาวะน้ำหนักเกิน และพบว่าเพศชายมีความเสี่ยงต่อโรคดังกล่าวสูงกว่าเพศหญิง สำหรับแนวทางเพื่อลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองคือ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด ไขมันสูง ควบคุมระดับความดันโลหิต ไขมัน และน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ รวมถึงตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง ในกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่แล้ว ต้องรักษาและรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image