เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินของประชาชนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ครอบคลุม 3 จังหวัด 9 อำเภอว่า จากการที่ตนเข้าร่วมประชุม รับฟังปัญหาในพื้นที่ พบว่า ชาวบ้านทำกินในพื้นที่มาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ปู่ ย่า ตา ยาย ของเขามา 300 ปี มีเอกสารสิทธิที่ทางราชการออกให้โดยชอบชัดเจน เช่น โฉนดที่ดิน นส.3 ก. นส.3 สค.1 และตราจอง แต่เมื่อปี 2542 ราชการประกาศให้พื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ จนกระทบชาวบ้านที่ถือครองสิทธิตามกฎหมาย ทั้งๆ ที่มาตรา 6 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504 ได้บัญญัติไว้ชัดเจน ว่าเขตอุทยานแห่งชาตินั้น ไม่รวมถึงที่กรรมสิทธิ์ที่ดินราษฎรที่ครอบครองโดยชอบ เรื่องนี้กระทบอารมณ์ความรู้สึกชาวบ้านเขาอึดอัดมา แม้ในพื้นที่จะพยายามแก้ไข แต่ด้วยความล่าช้าทางราชการ จนถึงบัดนี้ยังแก้อะไรไม่ได้เลย
“ผมได้ยินข่าวว่า ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะนำมาตรา 44 เพื่อคืนสิทธิให้แก่ราษฎรในพื้นที่ ครอบคลุมประชากร 1 แสน 5 หมื่นคน อีกทั้ง ผมคุยกับแกนนำ เขากำลังรอการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่จะลงมาพื้นที่สามจังหวัดอีกวันสองวันนี้ อย่างใจจดใจจ่อ เขามั่นใจว่า หากนายกฯสั่งใช้ มาตรา 44 เร่งรัดแก้ปัญหาคืนสิทธิที่ดินอย่างเป็นธรรม ลงมาแจกโฉนดในพื้นที่ด้วยตนเอง จะได้ใจประชาชน ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้จะลดลง ไม่น้อยกว่า 70%แน่นอน” นายวิรัตน์ กล่าว
