Ghostbuster หนังรีเมคไร้สาระ ที่ดูสนุก เพลิดเพลิน ขำทั้งเรื่อง

Ghostbuster หนังรีเมคไร้สาระ ที่ดูสนุก เพลิดเพลิน ขำทั้งเรื่อง

Ghostbuster หนังรีเมคไร้สาระ ที่ดูสนุก เพลิดเพลิน ขำทั้งเรื่อง

หนัง Ghostbuster ปี 1984 เป็นหนังฟอร์มธรรมดา แต่เมื่อออกฉาย สร้างปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา ถือเป็นหนังผีแนวตลกที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล หากจะเทียบกับปัจจุบันรายได้ก็ประมาณ The Avengers ทั้งยังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ในสาขา Best Effects, Visual Effects และเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ซึ่งหากไม่มีหนังเรื่อง Indianna Jones & The Temple of Doom และเพลง I Just Called to Say I Love หนังเรื่องนี้ก็อาจคว้ารางวัลทั้งสองรางวัลมาครอง

แต่ถึงกระนั้นหอสมุดคองเกรสหรือหอสมุดแห่งชาติสหรัฐฯ ก็คัดเลือกหนัง Ghostbuster เป็น 1 ในหนัง 25 เรื่อง ที่ต้องเก็บรักษาไว้ในหอสมุด และได้รับการลงทะเบียนให้เป็น “สมบัติของชาติ” แถมนักดูหนังยังจัดให้เป็นหนังหนึ่งในร้อยเรื่องที่ห้ามตายก่อนได้ดู

ส่วนเพลง Ghostbuster ก็ขึ้นอันดับหนึ่งของ Billboard ติดกันถึงสามสัปดาห์ และรถ เอ็คโต 1 (Ecto 1) ซึ่งเป็นพาหนะของเหล่า Ghostbuster ก็ถูกจัดเป็นหนึ่งในสิบสุดยอดรถ ในความทรงจำของคนรักหนัง

Advertisement

เมื่อหนังดังขนาดนี้ พอมีข่าวว่าจะมีการรีเมกใหม่ และเปลี่ยนเหล่า Ghostbuster จากชายเป็นหญิงล้วน ด้วยทุนสร้างสูงถึงกว่าร้อยห้าสิบล้านเหรียญ จึงถูกแฟนหนังจับตามอง ทันทีที่ปล่อยหนังตัวอย่างออกมาในเดือนมีนาคม 2016 จำนวนคนกด Dislike สูงเกือบห้าแสนครั้ง มากเป็นประวัติการณ์ หนังถูกตราหน้าว่าจะต้อง “แป้ก” อย่างแน่นอน

พอล ฟิก ผู้กำกับหนังแนวตลกซึ่งทำเงินทุกเรื่อง เช่นเรื่อง Bridesmaids, The Heat และ Spy เป็นผู้กำกับ Ghostbuster เวอร์ชั่น 2016 พูดถึงหนังของเขาว่า

“หนังของผมมักจะตัดหนังตัวอย่างออกมาให้สนุกยาก เพราะความตลกต่างๆ ของหนัง จะเกิดขึ้นจากการดูเนื้อเรื่องช่วงนั้นๆ ประกอบด้วย คนดูต้องเข้าใจบุคลิกตัวละคร ต้องมีเวลาทำความรู้จัก เขาถึงจะรู้สึกว่า ไอ้นี่มันฮามาก”

Advertisement

ยังไงก็ตามเว็บ Rotten Tomatos ให้คะแนนหนังเรื่องนี้ถึง 73 เปอร์เซ็นต์ และผู้ชมหลายคนมีความเห็นว่า เป็นหนังที่รีเมกออกมาได้ดีไม่แพ้เวอร์ชั่นเก่า มีเค้าโครงเดิมแต่ปรับให้ทันยุคสมัย มุขตลกมีทั้งจิกกัดและล้อเลียนตลอดทั้งเรื่อง สรุปว่าไม่ขี้เหล่แบบที่โดนประมาทคาดหน้าไว้

ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับดาราที่แสดงเป็น สี่สาว Ghostbuster ที่มี แอบบี้ ( เมลิซา แมคคาธี) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหนือธรรมชาติที่ปักใจเชื่อว่าผีมีจริง (เธอเป็นดาราคู่ขวัญที่ผู้กำกับชอบหยิบมาให้แสดงหนังตลกของเขา) เอริน (คริสเตน วิก) นักฟิสิกส์ผู้เชื่อเรื่องผี แต่ทิ้งเรื่องนี้ไปเพราะเกรงว่าความเชื่อนี้จะทำลายอนาคตเชิงวิชาการของเธอ ท้ายสุดเธอก็หันกลับมาหาสิ่งที่เธอเชื่อ โฮลทซ์แมน (เคท แมคคินนอน) วิศวกรนักประดิษฐ์ผู้ชอบคิดนอกกรอบ ใช้วิทยาศาสตร์สร้างอุปกรณ์ในการจับผี และแพตตี้ (เลสลี โจนส์) พนักงานรถไฟผู้รู้จักเมืองนิวยอร์คอย่างทะลุปรุโปร่ง และผันตัวมาเป็นหนึ่งใน Ghostbuster

ทั้งสี่สาวมีคาแรคเตอร์ที่ต่างกัน ออกแนวแปลกๆ แต่เมื่อมีเป้าหมายเดียวกัน การรวมตัวของพวกเธอจึงเติมเต็มกันและกัน เพื่อปกป้องโลกให้พ้นจากผีร้าย ท่ามกลางความไม่เชื่อถือของผู้คน

ดาราอีกคนที่ทำให้คนดูสุดแสนเซอร์ไพร์ส คือ คริส แฮมส์เวิร์ธ จากบทเทพเจ้าสายฟ้าที่คุ้นตา และออกแนวบู๊ มาเป็น เควิน เลขาหนุ่มของสี่สาว ที่ทั้งทึ่ม ทั้งหัวสมองช้า แต่เอาตัวรอดได้ด้วยหน้าตาที่แสนจะหล่อเหลาและท่าทางน่ารักแบบเด็กๆ เป็นอีกตัวละครที่น่าขันและมีมิติ เพิ่มสีสันให้หนังเรื่องนี้อย่างมาก ความเอ๋อของเควิน เช่น เขาชอบสวมแว่นตาที่เอาเลนส์ออกเพราะรำคาญว่ามันสะท้อนแสง และตั้งชื่อหมาของเขาว่า “ไมเคิล เหมียว” แต่ความคิดของเขาก็ไม่ธรรมดา ดูจากพาหนะของเขา เอ็คโต 2 มอเตอร์ไซค์ที่เขาสร้างขึ้นเอง

คริสพูดถึงเควินว่า “เควินเหมือนลูกหมาตัวใหญ่..เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ไร้เดียงสา และมองโลกในมุมมองที่แตกต่างจากคนอื่น ผมสนุกมากที่ได้เล่นเป็นคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แบบนี้”

หนังเรื่องนี้สร้างในระบบสามมิติที่เอฟเฟ็คเจ๋งมาก โดยเฉพาะฉากสู้กับผีตอนช่วงท้าย ที่มีฉากหลังเป็นนิวยอร์คยุค 70s เป็นการผสมผสานกันระหว่าง หนังไซไฟ แฟนตาซี แอคชั่น และคอมเมดี้ อยากแนะนำให้ดูระบบ 3 D เพราะจะได้เห็นลำแสงที่พุ่งออกมาจากอุปกรณ์จับผีที่เหมือนยิงมาที่คนดู หรือฉากผีที่ออกมาป่วนผู้คน ก็เหมือนปรากฏอยู่ตรงหน้าคนดูจริงๆ เป็นผีที่โปร่งแสง สีสันสดใส ออกแนวแฟนตาซี ไม่น่าสยองแต่มีชีวิตชีวา

Ghostbuster 2016 มีกลิ่นอายของหนังเวอร์ชั่นเก่าค่อนข้างมาก ทั้งรถเอ็คโต 1 ชุดหมีที่สี่สาวสวมใส่ไปจับผี ผีมาชเมลโล ผีตัวเขียวและผีที่พ่นเมือกออกมา รวมทั้งยังนำดาราจาก Ghostbuster 1984 ตั้งแต่บิล เมอร์เรย์, แดน แอกรอยส์, ซีเกอร์นีย์ วีเวอร์ และเฮอร์นี่ ฮัดสัน มาเป็นดารารับเชิญ

เพลงธีมยังคงเป็นเพลง Ghostbuster ของ Ray Parker Jr. ซึ่งฟังทีไรก็รู้สึกคึกคัก ปี 1984 เพลงนี้ดังขนาดในดิสโก้เธคทุกเธคต้องเปิดเพลงนี้ พอเนื้อเพลงขึ้น If there’s somethin’ strange in your neighborhood. Who ya gonna call? ขาแดนซ์ทั้งหลายก็ช่วยกันตระโกนต่อเพลงว่า Ghostbuster

เป็นหนังไร้สาระที่สนุก ดูเพลิน และขำทั้งเรื่อง มุขขันของหนังบางส่วนพาดพิงถึงหนังดังในอดีตที่น่าจะรู้จักกันดี เช่น Ghost, Jaws, Batman หนังตรึงคนดูให้เกือบทุกคนอยู่คอยชม End Credit แต่พูดก็พูดเถอะ ถ้าภาคต่อไม่มีคริส แฮมส์เวิร์ธ มาแสดงเป็นเควินละก็ เราไม่ดูหรอก คนอะไรทั้งหล่อทั้งน่ารักชะมัด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image