เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2559 เมื่อเวลา 13.49 น. น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.เชียงใหม่ พร้อมทีมทนายความ 3 คน ประกอบด้วย นายจำรงค์ ไชยมงคล นายวิญญัติ ชาติมนตรี นายกัณต์พัศฐ์ สิงห์ทอง และน้องสาว น.ส.ทัศนีย์เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อขอพบ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 โดย น.ส.ทัศนีย์กล่าวว่า เหตุผลที่เข้ามาที่ภาค 5 อยากมาทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวสารที่เกิดขึ้น มาขอทราบรายละเอียดก่อน
“เพราะข่าวที่ออกไปเห็นว่ามาพาดพิงตัวดิฉันและดิฉันยังไม่เคยเห็นข้อความในจดหมายเลยอยากมาขอรายละเอียด เท่าที่เป็นประเด็นข้อความจดหมายและเห็นจากสื่อว่าเป็นจดหมายบิดเบือนร่าง รธน. 30 บาทรักษาทุกโรค เบี้ยผู้สูงอายุ ประเด็นนี้ดิฉันเห็นนักวิชาการหลายคนก็ออกมาโพสต์มาพูดในสังคม และไม่ใช่เรื่องผิด แต่ช่วงนี้ ร่าง รธน.ก็ต้องให้สิทธิคนวิจารณ์และมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ และดิฉันเห็นว่าการส่งจดหมายไม่ใช่เรื่องผิด ประชาชนมีสิทธิเสนอความคิดเห็น ควรเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น จึงอยากมาฟังข้อเท็จจริง ในฐานะอดีต ส.ส.มีสิทธิออกความคิดเห็นเรื่อง ร่าง รธน.ในมุมมองดิฉันในเรื่องต่างๆ ก็จะมีสภาปฏิรูป 250 คน และ ส.ว. 250 คน ที่มาจากการคัดสรรทั้งหมด รวมแล้ว 500 คน ดิฉันก็ห่วงประเด็นนี้ด้วย อาจทำให้รัฐบาลในอนาคตมีปัญหาได้ วันนี้จึงมาขอรับทราบข้อเท็จจริงและยืนเคียงข้างความยุติธรรมอย่างนี้ตลอดไป” น.ส.ทัศนีย์กล่าว
เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่เจอเอกสารในบริษัทเชียงใหม่ ทัศนาภรณ์ จำกัด น.ส.ทัศนีย์ตอบว่า เท่าที่ทราบก็ได้ซองเฉยๆ ที่ยึดไปเป็นซองเปล่าที่ค้นที่บ้าน ในระหว่างนั้นนายจำนงค์ หนึ่งในทีมทนายความตอบแทรกขึ้นมาว่า เป็นซองเปล่าๆ เป็นเรื่องกล่าวหาว่ากระทำผิด พ.ร.บ.ประชามติเท่านั้น และยังไม่มีข้อยุติเลยว่าข้อความที่ปรากฏในเอกสารผิด พ.ร.บ.ประชามติหรือไม่ แต่ปรากฏว่าวันนี้ไปค้นที่โน่นที่นี่มากมาย จึงหารือกับอดีต ส.ส.ว่าจะใช้มุมสื่อแบบนี้ไม่ได้ ต้องมาพบ ผบช.ภ.5 มาขอข้อเท็จจริง หากแจ้งข้อกล่าวหาวันนี้ ก็ให้ ส.ส.มอบตัวและขอประกันตัว จะได้หรือไม่ก็แล้วแต่ท่านจะกรุณา แต่รายละเอียดอื่นๆ ต้องขออภัยที่อาจตอบไม่ได้ เพราะเข้ากระบวนการตามกฎหมาย
เมื่อถามว่าเกี่ยวข้องกับนายวิศรุต คุณะนิติสาร อย่างไร น.ส.ทัศนีย์กล่าวว่า รู้จักเพราะเป็นลูกน้องเก่า แต่เป็นกระแสข่าวว่าผิด พ.ร.บ.ประชามติหรือไม่ยังไม่มีใครออกมาบอก แต่ทำเป็นข่าวคดีอุกฉกรรจ์ไปใหญ่โต ในฐานะที่ดิฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนนี้เลยมาสอบถามข้อความจริงที่นี่ ส่วนพยานหลักฐาน ยังไม่มีการเอ่ยชื่อแต่อย่างใด แล้วมาพบเจ้าหน้าที่เพราะอะไร นายจำนงค์ทนายความได้ตอบแทนว่า ทิศทางสื่อสารมุ่งประเด็นมาที่ ส.ส.ทัศนีย์อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องสงสัยไม่ต้องไปค้นอะไรกันแล้วเลยมาวันนี้เลย ความจริงแค่คำกล่าวหาว่าผิด พ.ร.บ.ประชามติแค่ซองจดหมายซองเดียวหรือไม่กี่ซอง ทำเหมือนก่อการร้ายทั้งประเทศ เราไม่อยากไม่ต้องการเรื่องนี้มาเลย จดหมายผิดไม่ผิดยังไม่มีใครตัดสินเลย แต่ซองจดหมายที่ไปค้นที่บ้านเขาก็แค่ซองเปล่าขนไป แล้วพูดกันไปว่าบิดเบือน รธน. บิดเบือน 30 บาทรักษาทุกโรค วันนี้ก็เลยมาพบว่าที่กล่าวหาจะเอาอย่างไรกันต่อ
เมื่อถามว่ากรณีที่นายวิศรุตกล่าวพาดพิงว่าได้รับคำสั่งจากคนในบริษัทฯ คือ น.ส.ทัศนีย์ใช่หรือไม่ นายจำนงค์ทนายความตอบแทนว่า ไม่มีปัญหา ปัญหาประเด็นในวันนี้สรุปแล้วจดหมายที่กล่าวถึงถามว่าขัด พ.ร.บ.ประชามติหรือไม่ ทางนี้จะปฏิเสธหรือไม่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถ้ามันไม่ผิดจะเอาใครไปส่งก็ไม่ผิด ผมพูดแทนคุณทัศนีย์ได้เลยว่ามีบางฉบับที่เขาให้ส่ง แต่ข้อความที่ให้ส่งไม่ผิด ยืนยันว่าไม่ผิดจริงๆ ส่วนการติดต่อกับนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หรือยัง น.ส.ทัศนีย์กล่าวว่า ท่านลาก่อน 3 เดือนแล้ว กรณีนี้ท่านไม่รู้เห็นใดๆ ทั้งสิ้น เพราะท่านทำงานท้องถิ่นของท่านไป ดิฉันในฐานะอดีต ส.ส.ก็ทำงานไป ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่ได้ประสานไป แต่ท่านโทรศัพท์มาสอบถามข่าวคราวด้วยความเป็นห่วง
เมื่อถามว่ามองอย่างไรหากมีการใช้นายวิศรุตอดีตลูกน้องมากล่าวหาและกลั่นแกล้งหรือไม่ น.ส.ทัศนีย์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่ากล่าวหาอะไร วันนี้มาตามที่สื่อลง ประเด็นมุ่งมาที่ตนเอง ไปค้นบ้าน แต่ยอมรับว่ายังติดต่อกันอยู่เพราะทำงานอยู่เทศบาลตำบลช้างเผือก เช่นเดียวตัวนายคเชน เจียกขจร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลช้างเผือก เขาก็ไม่เกี่ยวอะไร
ด้านนายจำนงค์ทนายความได้กล่าวเสริมว่า วันนี้หากแจ้งข้อกล่าวหาก็รับ หากไม่แจ้งก็กลับ สู้ตามกระบวนการยุติธรรม เพราะ ส.ส.ทัศนีย์มั่นใจว่าข้อความที่เห็นในหนังสือพิมพ์ไม่ผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติ ม.61 จึงมาแสดงความบริสุทธิ์ ไม่หนี ไม่ต้องออกหมายจับ มาลงบันทึกประจำวันไว้ว่าหากโทรมาก็จะมาทันที ยืนยันสู้คดีจนถึงที่สุด
ขณะที่ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า การมาขอพบของ น.ส.ทัศนีย์และทีมทนายความ 3 คน และมาแจ้งว่าไม่ได้ไปไหนอย่างไร พร้อมมาชี้แจงพนักงานเจ้าหน้าที่จากที่ได้ฟังข่าวจากสื่อทั้งหลาย เขาวิตกกังวลและมาแสดงตนว่าไม่ได้ไปไหน เป็นเรื่องที่เขามาแสดงตัวเอง และไม่ได้นัดหมายกัน ทีมทนายความยืนยันว่าเป็นการแสดงความสุจริตใจของ น.ส.ทัศนีย์เอง ส่วนรายชื่อที่จะออกหมายจับเป็นใครบ้างขอเป็นเรื่องวาระพิเศษที่จะต้องดำเนินการต่อไป เพราะอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งคืบหน้าไปมากแล้วตั้งแต่เกิดเหตุขึ้น ช่วงวันที่ 12 กรกฎาคมแล้ว เราทำงานทุกวัน จากนี้ไปก็สอบสวนหาข้อเท็จจริงจากวันที่ผู้ต้องหาเขารับสารภาพว่าได้รับการสั่งการจากใคร อย่างไร ใครเกี่ยวข้องบ้าง คนเกี่ยวข้องทั้งหมดก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย เรามั่นใจในหลักฐาน 100% อะไรที่มีส่วนเกี่ยวข้องเราดูจากหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ พยานบุคคล คำรับสารภาพ และพยานแวดล้อมต่างๆ เป็นหลักการทำงานของเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายทหาร ตำรวจ และปกครอง เพื่อความโปร่งใส
เมื่อถามว่าจะโยงไปยังต้นตอหรือคนเกี่ยวข้องระดับผู้บงการหรือไม่ ผบช.ภ.5 ตอบว่า ขอเรียนให้ทราบว่ามีคนสั่งแน่ แต่ต้องหาข้อมูลหาพยานหลักฐานเชื่อมโยงกันให้มากที่สุด ตามหน้าที่ของพนักงานสืบสวนสอบสวน และไม่มีกำหนดกรอบเวลาเราทำงานตามข้อเท็จจริง ทางผู้ใหญ่ สตช.กำชับให้ทำงานด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ส่วนจะขยายไปยังจังหวัดอื่นหรือไม่นั้น หากมีเกี่ยวข้องถึงใครไม่ว่าอยู่ที่ไหนอย่างไรก็ต้องดำเนินการทั้งหมด ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการก็จะมีข้อมูลแจ้งให้ทราบแน่นอน และเหตุการณ์ออกมาไล่เลี่ยกันคาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐานว่าจะไปถึงใคร
ทั้งนี้ กระแสข่าวว่ามีการทำลายเอกสารหลักฐานไปบ้างนั้น ผบช.ภ.5 กล่าวว่า ผมยังไม่ทราบเรื่องนี้เลย