| ที่มา | มติชนออนไลน์ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ชาวบ้านบางระกำ อนุรักษ์บ้านไม้สักรูปทรงหกเหลี่ยมแปลก มีผนังบ้าน 6 เหลี่ยม ซึ่งก่อนหน้านี้มีถึง 8 เหลี่ยม เป็นบ้านโบราณหลังเดียวของเมืองพิษณุโลก อายุกว่า 130 ปี ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร โดยเจ้าของเชื่อว่าจะนำมาซึ่งความมั่งคั่ง ร่ำรวยและนำพาสิ่งดี ๆ อันเป็นสิริมงคลแก่การดำเนินชีวิต
โดยบ้านไม้สักรูปทรงหกเหลี่ยมแปลก มีผนังบ้าน 6 เหลี่ยม ซึ่งก่อนหน้านี้มีถึง 8 เหลี่ยม เป็นบ้านโบราณหลังเดียวของเมืองพิษณุโลก อายุกว่า 130 ปี หลังนี้ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 152 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เป็นของนายสณัฐ อำไพพงษ์ อายุ 75 ปี ราชการบำนาญที่ภายหลังเกษียณอายุราชการจากการท่าเรือ กลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิด และอนุรักษ์บ้านทรงโบราณหลังนี้ไว้
บ้านหลังนี้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม อำเภอบางระกำ เดิมเป็นบ้านที่มีรูปทรง 8 เหลี่ยม ที่เป็นรูปทรงหนึ่งที่คนจีนโบราณเชื่อว่าจะนำมาซึ่งความมั่งคั่ง ร่ำรวยและนำพาสิ่งดี ๆ อันเป็นสิริมงคลแก่การดำเนินชีวิต ภายหลังแม่น้ำยมเซาะตลิ่งเข้ามาใกล้ตัวบ้าน เจ้าของจึงได้ทำการย้ายให้ไกลออกมาจากฝั่ง โดยใช้วิธีย้ายแบบดีดบ้านและลากเลื่อนมา โดยไม่ต้องรื้อหรือเอาสิ่งของภายในบ้านออก และได้ปรับแบบบ้านให้เหลือเพียง 6 เหลี่ยม เพื่อให้เข้ากับพื้นที่ 300 กว่าตารางวาของบริเวณบ้าน
และที่เห็นเด่นชัดและสะดุดตาแก่ผู้ผ่านไปมาในชุมชนคือ บานประตูเฟี้ยม ที่เป็นไม้สัก ที่มีความงดงามและยังรักษาได้ในสภาพที่ดี แต่ละช่วงก็จะมีทั้งหมด 8 บาน ซึ่งต้องใช้แรงคนช่วยปิด-เปิด คนเดียวทำไม่ไหว จึงต้องปิดไว้อย่างนั้น ในส่วนของตัวบ้าน จะมีบันไดขึ้นถึง 3 ทาง ภายในยังมีพวกข้าวของเครื่องใช้ ที่มีขนาดใหญ่เช่นตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ที่เป็นของโบราณมีอายุอยู่คู่บ้านมานาน มีคนมาขอซื้อแต่ก็ไม่ขาย อยากให้เก็บไว้อยู่กับบ้านนี้ไปให้นานที่สุด
นายสณัฐ อำไพพงษ์ เล่าว่า แม้ว่าจะผ่านพ้นมานับร้อยปี บ้านหลังนี้บรรพบุรุษได้ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่อีกรุ่น โดยช่างจากกวางตุ้ง จากไม้เป็นท่อน ๆ 60-70 ท่อนในสมัยก่อน มาเลื่อย ช่างต้องกางเต้นท์ทำกัน ใช้เวลาสร้างประมาณ 1 ปีกว่า หมดค่าจ้างสมัยนั้นประมาณ 8,000 บาท บ้านหลังนี้มีอายุประมาณ 130 ปี สมัยก่อนอยู่ริมน้ำถนนพังดินทรุด จึงต้องย้าย โดยใช้หมอนรางรถไฟรอง และใช้ล่อดึง สมัยก่อนมี 8 เหลี่ยมก็ล่นให้เหลือ 6 เหลี่ยม มีคนมาติดต่อขอซื้อหลายครั้ง เราไม่ขายเพราะครอบครัวเราก็พอเลี้ยงตัวได้ สมัยก่อนเครื่องใช้มีมาก ก็มีคนมาขอซื้อไปเรื่อย จนกระทั่งผมกลับมาจากกรุงเทพก็บอกว่า ห้ามขายอยากอนุรักษ์ไว้ ก็เหลือแต่ของใหญ่ ๆ พวกตู้ โต๊ะเท่านั้น
หากเยาวชนที่ต้องการศึกษาถึงการสร้างบ้านแบบโบราณที่สามารถคงอยู่ได้นานนับ 100 ปี รูปแบบอาคารที่ยังมีความสวยงาม รูปทรงสวยงามแปลกตา ก็สามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้ได้ ทางนายสณัฐ ยินดีที่จะเป็นไกด์นำชมบ้านด้วยตัวเอง
