กลับมาอีกครั้งสำหรับ มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 18 ที่รวบรวมศิลปะชั้นเยี่ยมหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ โอเปรา บัลเลต์ ซิมโฟนีออเคสตรา แจ๊ส การเต้นร่วมสมัย และอีกหลายวัฒนธรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจมาจัดแสดงให้คนไทยได้ชม โดยในปีนี้ได้คัดสรรการแสดงและดนตรีชั้นเลิศจาก 12 ประเทศ รวม 16 ชุดการแสดง
เปิดม่านการแสดงด้วยบัลเลต์ Swan lake ที่บอกเลยพลาดไม่ได้ เพราะสวอนเลกของคณะสตานิสลาฟสกี บัลเลต์ (Stanislavsky Ballet) จากมอสโกนั้น ได้รับยกย่องว่าเป็นคณะที่สร้างสรรค์สวอนเลกได้ดีที่สุดในโลก ด้วยเหตุนี้เพิ่งเปิดขายบัตรได้ไม่ทันไร ก็ขายไปได้ไวสุดๆ
บัลเลต์คณะนี้ยังมีการแสดงอีกชุดคือ Giselle โดยชุดนี้เป็นการออกแบบท่าเต้นโดย มาริอุส เปติปา
นอกจากนี้ยังมีบัลเลต์เรื่อง Tristsn and Isolde ที่พูดถึงความรักที่มาผิดเวลาระหว่าง ‘ทริสทัน’ อัศวินหนุ่ม และ ‘อีโซล’ เจ้าหญิงแห่งไอริช โดย คณะเจนีวาบัลเลต์ จากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งแสดงนำโดย ศรวณีย์ ธนะธนิต นักบัลเลต์ไทยที่มีฝีมือระดับนานาชาติ จนได้รับเลือกให้เป็นตัวเองของการแสดงชุดนี้
คณะเจนีวาบัลเลต์ ยังมีการแสดงอีกชุดคือ Carmina Burana ที่ออกแบบท่าเต้นโดย คล็อด บรูมาชง ซึ่งใช้ประสบการณ์กว่า 30 ปีสร้างสรรค์ท่าเต้นทรงพลัง
นอกจากนั้นยังมีบัลเลต์จาก คณะคาร์ลสรูเออ บัลเลต์ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 คณะที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำด้านบัลเลต์คลาสสิกของเยอรมนี ที่ครั้งนี้จะนำ Nutcracker-A Chirstmas Carol มาโชว์
แต่ถ้าชอบแบบร่วมสมัยโดย คณะบัลเลต์เพรลโจกาซ ก็มี Romeo&Juliet ที่หยิบงานอมตะของ เช็กสเปียร์ มาตีความใหม่ถ่ายทอดโศกนาฏกรรมระหว่างทหารกับคนไร้บ้านในช่วงเวลาที่กำแพงเบอร์ลินถูกทำลาย อันเป็นผลงานออกแบบท่าเต้นโดย อองเจลอง เพรลโจกาซ
ที่คนจัดกระซิบว่าหาดูได้ยาก แม้กระทั่งในอินเดียเอง คือ Uncharted Seas ‘การเต้นกถัก’ อันเป็นรูปแบบการเต้นรำคลาสสิกชนิดหนึ่งของอินเดีย ที่นักแสดงจะมาพร้อมกระพรวนข้อเท้า
ส่วนคนชอบโอเปราต้องไม่พลาดการแสดงจากเฮลิคอนโอเปรา คณะอุปรากรที่ยอดเยี่ยมที่สุดของรัสเซีย โดยปีนี้นำมาแสดงสองเรื่อง คือ Un Ballo in Mascgera จากบทประพันธ์ของ จูเซปเป แวร์ดี คำร้องโดย อันโตนิโย ซอมมา เรื่องของอำนาจ ความรัก การหักหลัง และแผนลับทางการเมือง
อีกเรื่องคือ Carmen อุปรากร 2 องค์ของ จอร์จ บิเซต์ การแสดงชุดนี้เป็นงานที่ได้รับความนิยมสูงสุดของคณะ ที่การันตีความยิ่งใหญ่ด้วยรางวัล Golden Mask Award ในสาขาผู้กำกับการแสดงยอดเยี่ยม และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมมาครอง
มาที่งานดนตรีวง The Israel Camerata Orchestra จากอิสราเอลที่มีจุดเด่นตรงที่รวบรวมนักดนตรีที่มีความสามารถระดับแสดงเดี่ยวจำนวนมากมาไว้ด้วยกัน ในครั้งนี้จะนำเพลง ‘Divertismento for String Orchestrs’ ของ เบลลา บาร์ด็อก , ‘Cello Concerto No.1’ ของ โจเซฟ ไฮ เดิน , ‘Kaddish’ ของ มาร์ก โค ปีต์แมน และ ‘Symphony No.5’ ของ ฟรันซ์ ชูเบิร์ต มาบรรเลง
ขณะที่ The Presidential Symphony Orchestra วงซิมโฟนีออร์เคสตร้าที่เก่าแก่ที่สุดวงหนึ่งจากตุรกี จะบรรเลงเพลง ‘Kocekce’ ของ อูลวี เออร์กิน, ‘The Moldau’ ของ เบดริช สเมดานา, ‘Hungarian Rhapsody’ ของฟรานซ์ ลิซต์ และ ‘Symphony No.2’ ของ แซร์เก รัคมานินอฟฟ์ มาแสดง
ถ้าชอบแบบขยับแข้งขยับขาได้ ก็ต้อง Hollywood Sound of Cinema คอนเสิร์ตเพลงประกอบภาพยนตร์ ที่เพิ่งคว้ารางวัล 2016 Beste Deutsche Showproduktion มาครอง
หรือถ้าชอบแจ๊ซมากกว่า The Shuffle Demons วงดนตรีฟิวชันแจ๊ซจากแคนาดา และ Belgian Saxophone Ensemble วงแซกโซโฟนที่มีสมาชิก13 คนจากเบลเยี่ยม จะให้ความสำราญใน ‘ค่ำคืนแห่งแจ๊ซ’
ที่น่าจะถูกอกถูกใจทุกเพศ ทุกวัย ในครอบครัวคือกายกรรม China National Acrobatic Troupe ที่มีชื่อเสียงในจีน ทั้งยังเคยคว้ารางวัลเหรัยญทองจากทั่วโลกมาครองรวม 58 เหรียญ
สำหรับการแสดงที่ได้รับการต้อนรับดีเยี่ยมทุกปีที่มาคือการเต้นรำฟลาเมงโก ที่ปีนี้ Voces, Suite Flamenca โดยซารา บาราส แดนซ์ คอมปานี คณะนักเต้นฟลาเมงโกที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในสเปน ถึงขั้นที่ซารานั้นได้รับเลือกให้ถูกบันทึกไว้บนสแตมป์ของที่นั่นเลยทีเดียว
ปิดท้ายมหกรรมด้วยการแสดงโมเดิร์นแดนซ์จากนิวยอร์ก Paul Taylor Dance Company คณะนักเต้นร่วมสมัยผู้บุกเบิกวงการเต้นในสหรัฐอเมริกาซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2497 ซึ่งครั้งนี้เขาเตรียมเซอร์ไพรส์ด้วยโชว์สองชุดที่ไม่เหมือนกัน
ทั้งนี้การแสดงทั้งหมดจะมีขึ้นที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 8 ก.ย. ถึง 17 ต.ค. ดูรายละเอียด เช็ครอบการแสดง และจองบัตรได้ที่ www.thaiticketmajor.com ทุกสาขา
งานดีแบบนี้นานทีมีหน พลาดแล้วต้องรอปีหน้าเลย รีบเช็ครีบจองกันด่วน!
