ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 กรกฎาคม นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่า พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ ร่วมกับ นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รอง ผบก.ปทส. พ.ต.ท.จุมพล เลขสุนทรากร รอง ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.ฐิติยุทธ บรรจงธุรการ สวป.สภ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 134 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี พร้อมกำลังกว่า 100 นาย เข้าตรวจสอบบริเวณวัดลิเจีย หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เนื่องจากชุดพญาเสือฯ ได้รับการร้องเรียนว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการบุกรุกพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และมีการแบ่งล็อกเป็นแปลงเล็กๆ ขายให้กับกลุ่มนายทุน ที่เป็นลูกศิษย์ของวัดดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ของวัดลิเจียได้ขออนุญาตพุทธอุทยาน ดำเนินการทางด้านพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้องตามกฎหมายของกรมอุทยานฯ แต่มีพื้นที่จำนวนหนึ่งที่เป็นเชิงเขาติดกับพื้นที่ของวัดลิเจีย มีการจัดพื้นที่แบ่งออกเป็นแปลง รวมทั้งหมด 13 แปลง โดยแปลงที่ 1-9 ปลูกเป็นบ้านพักตากอากาศเป็นหลัง ขนาดเล็ก มีทั้งชั้นเดียว และ 2 ชั้น แต่ละหลังปลูกในพื้นที่ประมาณ 20 ตารางเมตร หากมองจากพื้นที่ด้านบนลงมาด้านล่าง จะเห็นทัศนียภาพที่สวยงามและร่มเย็น เป็นอย่างมาก
ขณะที่เจ้าหน้าที่กระจายกำลังกันตรวจสอบบ้านแต่ละหลัง พบ นางเห่ย เหงียน ถิ อายุ 59 ปี เป็นชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม ชาวจังหวัดระยอง อยู่ภายในบ้านพักแบบน็อกดาวน์ของที่ดินแปลงที่ 3 จึงสอบถามถึงที่มาที่ไป โดย นางเห่ย เหงียน ถิ ให้การว่า บ้านหลังดังกล่าวตนสร้างขึ้นมาในราคา 1.5 แสนบาท และได้ถวายให้กับเจ้าอาวาสวัดลิเจียไปแล้ว ส่วนตนพักอยู่บ้านที่อยู่ติดกัน โดยสร้างในราคาประมาณ 3 แสนบาท สำหรับบ้านหลังที่ตนถวายให้กับเจ้าอาวาสนั้น เจ้าอาวาสมีไว้สำหรับให้ลูกศิษย์ที่มานั่งวิปัสสนาได้พักผ่อน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนนอกพื้นที่ ทั้งนี้ก่อนที่จะสร้างบ้านพัก ไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นการรุกที่ดินของกรมอุทยานฯ เนื่องจากเจ้าอาวาสบอกกับลูกศิษย์ทุกคนว่า สามารถสร้างบ้านพักได้เลยเพราะที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของวัด ดังนั้นลูกศิษย์จึงสร้างบ้านพักขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพียงแค่มีไว้สำหรับพักผ่อน เมื่อยามที่เดินทางมานั่งวิปัสสนาที่วัดลิเจียเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัว นางเห่ย เหงียน ถิ ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
