อัคราฯ ยังขอลุ้น กพร. พิจารณาต่อเหมืองทองคำใหม่ ยันพร้อมดูแลคุณภาพชีวิตชาวบ้านรอบเหมือง อัด 45 ล้านเข้ากองทุนพัฒนาท้องถิ่น

นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการฝ่ายประสานกิจการภายนอก บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ให้มีการยุติกิจการเหมืองทองคำในประเทศไทยภายในสิ้นปี 2559 ซึ่งในส่วนของ อัคราฯ ทาง กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่(กพร.)ต่อใบอนุญาตกิจการโลหะกรรม ให้เพียง 7 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม -31 ธันวาคม2559 ทำให้ อัคราฯ ต้องปิดเหมืองทองคำทั้งหมดภายในปีสิ้นปี้นั้น ในขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างรอคำตอบจากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่หรือ กพร.หลังจากที่ได้ยื่นจดหมายอุทธรณ์ขอความเป็นธรรมไป ทางบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสานต่อกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนรอบเหมืองต่อไป โดยบริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเหมือนที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัทฯ ได้นำเงินมูลค่า 45 ล้านบาท เข้าสู่กองทุนพัฒนาท้องถิ่นที่มีสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรดูแลแล้ว เพื่อพัฒนาด้านต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชุมชนรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี โดยเฉพาะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนรอบเหมืองอย่างแท้จริง และช่วยต่อยอดโครงการส่งเสริมอาชีพต่างๆ ที่บริษัทฯ และหน่วยงานบริหารราชการในท้องถิ่นได้ริเริ่มไว้ให้ยั่งยืนต่อไป

“เงินสนับสนุนจำนวนนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธสัญญาที่บริษัทฯ ยินดีทำเพื่อชุมชน และถือเป็นเรื่องน่าเสียดายหากกองทุนนี้ ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในอีกหลายกองทุน และอีกหลายโครงการที่บริษัทฯ สนับสนุนจะต้องสิ้นสุดลงในปี 2559 นี้ เนื่องจากบริษัทฯ ได้วางแผนการพัฒนาชุมชนไว้อีกหลายโครงการเพื่อให้ครอบคลุมการพัฒนาชีวิตของคนในชุมชนในทุกๆ ด้าน อาทิ การสนับสนุนด้านการศึกษา การบรรเทาภัยแล้ง การปรับปรุงคุณภาพน้ำดื่ม และการส่งเสริมกลุ่มอาชีพ ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจไปจนสิ้นอายุเหมืองในปี 2571” นายเชิดศักดิ์กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเร็วๆนี้ มีการประชุมคณะบริหารกองทุนพัฒนาท้องถิ่น ครั้งที่ 1 ที่ประชุมได้มีการตั้งอนุกรรมการซึ่งมีนายอำเภอรอบเหมือง3 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอทับคล้อ จ. พิจิตร , อำเภอวังโป่ง จ. เพชรบูรณ์ และ อ. เนินมะปราง จ. พิษณุโลก เป็นประธานฯ เพื่อพิจารณากลั่นกรองการใช้จ่ายเงินของแต่ละอำเภอ ล่าสุดมีการให้แต่ละหมู่บ้านจัดทำโครงการฯ โดยผ่านความเห็นชอบจากประชาคมหมู่บ้านในวงเงินหมู่บ้านละ 1ล้านบาทจำนวน 29 หมู่บ้าน รวม 29ล้านบาท ครอบคลุมด้านโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยให้ส่งโครงการมาที่อำเภอภายในวันที่ 25 กรกฎาคม 2559 นี้ ส่วนวงเงินที่เหลืออีก 16 ล้านบาทนั้น ทางหน่วยงานราชการอื่นๆ จะเป็นผู้พิจารณานำเงินนี้ไปใช้พัฒนาชุมชนในด้านอื่นๆ ตามสมควร

นางสิริรัตน์ ม่วงวัดท่า ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 บ้านเขาหม้อ ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ. พิจิตร กล่าวว่า โครงการเงินจำนวน 45 ล้านบาทที่สนับสนุนโดยบริษัท อัครา นี้มีความคืบหน้าเป็นอย่างดี และจะถูกนำมาจัดสรร เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้พัฒนาคุณภาพชีวิต พัฒนาชุมชนต่อไป มองว่าโครงต่างๆ เหล่านี้จะได้รับการสนับสนุน ช่วยให้ลูกบ้านตั้งต้นได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image