แม่เด็ก9ขวบฉีกประกาศประชามติเสียขวัญหนัก พาลูกหนีจากบ้าน ครูห่วงนร.เสียอนาคต

แม่เด็ก 9 ขวบที่ฉีกประกาศลงประชามติเสียขวัญหนัก หนีกระเจิง พาลูกขนของหนีจากบ้านเช่ากลางดึกไร้ร่องรอยหลังถูกตร.แจ้งข้อหา

จากกรณีที่นางน้อย(นามสมมุติ)พาเด็กชายนุ้ย(นามสมมุติ)ลูกชายวัย 9 ขวบ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ดเพื่อสอบสวนปากคำ กล่าวหาว่าฉีกบัญชีรายชื่อลงประชามติ และในที่สุดตร.เค้นสอบ จนรับว่าลูกชายเป็นคนฉีก แบบ อ.ส. 6 ซึ่งเป็น บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงลงประชามติ ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 7 ศาลาอเนกประสงค์ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา หมู่ที่ 9 บ้านแหลมทรายทอง ต.โพนทราย อ.โพนทรายจริง และทำการบันทึกปากคำรับว่าทำด้วยความคึกคะนอง เพียงลำพังคนเดียว โดยไม่มีใครสั่งหรืออยู่เบื้องหลังแต่อย่างใด และหลังสอบปากคำเบื้องต้นและพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาดำเนินคดี ด.ช.นุ้ย ในข้อหาทำให้เสียหาย ทำลายเอกสารซี่งเป็นทรัพย์มีไว้ใช้เพื่อสาธารณะ แต่ ด.ช.นุ้ย เป็นเด็กอายุเพียง 9 ขวบ จึงได้ปล่อยตัวไปก่อน โดยมอบให้ผู้ปกครองนำกลับไปควบคุมดูแล และบอกว่าจะมีการเรียกตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอน ของกฎหมายต่อไป
แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยให้กลับบ้านกับแม่ ต่อมาปรากฏว่า วันนี้เด็กชายคนดังกล่าว ที่เรียนอยู่ชั้น ป.3 ในโรงเรียนเดียวกัน ไม่ได้ ไปโรงเรียนตามปกติ มา 3 วันแล้ว ครูจึงสั่งให้เพื่อนพาไปตามหาที่บ้านพัก ที่เป็นบ้านเช่าซึ่งพ่อแม่พาเช่าพักอาศัยอยู่ใกล้ๆกับตลาดสด เทศบาลตำบลโพนทราย แต่เมื่อไปถึงบ้านเช่าหลังดังกล่าว กลับพบว่าที่เช่าที่เป็นบ้านคอนกรีตชั้นเดียว ไม่มีใครอยู่ ประตูบ้านไม่ได้ใส่กุญแจเปิดเข้าไปในบ้านพบว่าภายในบ้าน ไม่มีใครอยู่ และเป็นห้องว่างไม่มีสิ่งของใดๆเหลืออยู่

และจากการสอบถามเพื่อนบ้านข้างเคียงก็ทราบว่าหลังจากเกิดเรื่องขึ้นและหลังจาก ตร.ปล่อยตัวกลับมาที่บ้านเช่น ในช่วงเย็นๆยังเห็นแม่และลูกอยู่ในบ้าน แต่ตอมาตอนเช้าก็ไม่พบ 2 แม่ลูกแล้ว คาดว่าพากันย้ายบ้านหลบหนีไปในเวลากลางคืน โดยไม่มีใครทราบว่าไปไหน

และหลังจากไม่พบตัว ครูประจำชั้น ที่รู้สึกเป็นห่วงเรื่องการเรียนของเด็กเพราะถ้าขาดเรียนบ่อยก็จะเรียนไม่ทัน เพราะขาดการเรียนต่อเนื่องหลายวัน ก็ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อผู้ปกครองของเด็ก แต่ ไม่สามารถติดต่อได้ และ รู้สึกเป็นห่วงและคิดว่าแม่คงกลัวลูกมีความผิดจึงแอบพาลูกชายหนีไป ซึ่งคาดว่าอาจจะพาหนีไปหาพ่อที่ จ.อุบลราชธานี และอยากจะให้ผู้ปกครองติดต่อมา เพื่อพาลูกกลับมาเรียนหนังสือ และหากจะย้ายไปเรียนที่อื่น ก็ขอให้ มาย้ายลูกไปออกไปแล้วไปเรียนต่อที่อื่น เพื่อไม่ให้เด็กเสียอนาคต และฝากให้ญาติ หรือใครที่ทราบแจ้งให้ติดต่อมาทำเรื่องย้ายไปให้เป็นที่เรียบร้อยก่อน

Advertisement

39

40

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image