รวมกฎหมาย คุมประชามติ 7 สิงหา

แฟ้มภาพ

1.พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559

มีทั้งหมด 3 หมวด รวม 66 มาตรา มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2559 เป็นต้นไป

สาระสำคัญคือให้ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รักษาการตามกฎหมาย ให้มีอํานาจ ออกระเบียบ ประกาศ หรือคําสั่งโดยความเห็นชอบของ กกต. และบุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเผยแพร่ความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงโดยสุจริตและไม่ขัดต่อกฎหมาย

สำหรับผู้มีสิทธิออกเสียง และบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง กำหนดให้บุคคลสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตออกเสียงมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันออกเสียง หากจะใช้สิทธิลงคะแนนออกเสียงในจังหวัดที่ตนอยู่ ให้ยื่นคําขอลงทะเบียนก่อนวันออกเสียงอย่างน้อย 30 วัน และการนับคะแนนออกเสียงให้กระทําโดยเปิดเผย ณ ที่ออกเสียงของแต่ละหน่วย

Advertisement

กฎหมายนี้ยังมีสาระสำคัญ เรื่องการควบคุมการออกเสียงและบทกําหนดโทษ หากจงใจไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทําการอื่นใดเพื่อขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย มีโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่น ถึง 2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี กำหนดโทษนี้ยังรวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐอื่นที่ใช้ตําแหน่งหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กระทําการใดๆ อันเป็นเหตุให้การออกเสียงไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

ส่วนการขัดขวางการปฏิบัติงานของ กกต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ถ้าใช้กําลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กําลัง

ประทุษร้าย ต้องระวางโทษเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ซึ่งโทษนี้รวมถึงกรณีนายจ้างขัดขวางหรือหน่วงเหนี่ยวต่อการไปใช้สิทธิออกเสียงของลูกจ้างด้วย

Advertisement

ผู้ใดทําลายบัตรออกเสียงโดยไม่มีอํานาจ หรือจงใจทำให้บัตรออกเสียงชํารุด หรือเสียหาย หรือทำให้บัตรเสียเป็นบัตรที่ใช้ได้ มีโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ถ้าเป็นเจ้าพนักงานหรือเป็นผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการดําเนินการออกเสียง โทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท

นอกจากนี้ยังห้ามขาย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ในเขตออกเสียงระหว่างเวลา 18.00 นาฬิกาของวันก่อนวันออกเสียง จนสิ้นสุดวันออกเสียง โทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

ส่วนการเผยแพร่ผลสํารวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงในระหว่าง 7 วันก่อนวันออกเสียง จนถึงเวลาสิ้นสุดการออกเสียง ต้องโทษจําคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

2.ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องกําหนดวันออกเสียงประชามติ

มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2559 ออกตามมาตรา 39/1 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2559 ในประกาศจะเป็นการกำหนดวันลงประชามติ 7 สิงหาคม 2559 พร้อมทั้งกำหนดให้มีคำถามพ่วงในการลงประชามติ ที่ถามว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่า เพื่อให้การปฏิรูปประเทศเกิดความต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ สมควรกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลว่า ในระหว่าง 5 ปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ ให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี”

3.ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2559

มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2559 มีทั้งสิ้น 8 หมวด จำนวน 121 ข้อ เป็นระเบียบที่ชี้แจงและกำหนดอำนาจหน้าที่ รวมทั้งแนวทางปฏิบัติของผู้มีสิทธิออกเสียง เจ้าพนักงานตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการออกเสียงประชามติ

4.ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2559

มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2559 ที่ออกโดยอำนาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 10 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2550 และมาตรา 5 มาตรา 7 และมาตรา 11 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559

โดยประกาศฯ ที่จะกำหนดถึงแนวทางในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ ที่บุคคลสามารถแสดงออกได้ โดยไม่ผิดไปจากข้อเท็จจริง รุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดมหรือข่มขู่ และไม่ขัดต่อกฎหมาย จำนวน 6 ข้อ หรือ 6 ข้อที่ทำได้ อาทิ การแสดงความคิดเห็นโดยใช้ถ้อยคำที่สุภาพ แสดงความคิดเห็นด้วยข้อมูลที่มีความชัดเจน ไม่บิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง

รวมทั้งแนวทางในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ ที่่เป็นข้อห้ามในการกระทำและแสดงออกที่จะขัดต่อกฎหมาย จำนวน 8 ข้อ หรือ 8 ข้อที่ทำไม่ได้ อาทิ การให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อด้วยข้อความเป็นเท็จ หรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดมหรือข่มขู่ในเว็บไซต์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การชักชวนให้ใส่เสื้อ หรือติดป้าย เข็มกลัด ธง ริบบิ้นหรือเครื่องหมายที่แสดงสัญลักษณ์ความเห็นอย่างใดอย่างหนึ่ง การแจกเอกสาร ใบปลิว หรือแผ่นพับ ที่มีข้อความอันเป็นเท็จหรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดมหรือข่มขู่ เพื่อก่อความวุ่นวาย หรือการชุมนุมทางการเมือง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image