ไพบูลย์ ลั่นคดีธรรมกายจะทำให้จบในรบ.นี้ ชี้ หมายจับ ผช.เจ้าอาวาส อยู่ที่พนง.สอบสวน

ไพบูลย์ คุ้มฉายา

“ไพบูลย์” ชี้ เตรียมหมายจับ ผช.เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย อยู่ที่พนักงานสอบสวน ลั่น พยายามทำคดีในจบในรัฐบาลนี้

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 3 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีข่าวว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)จะแจ้งจับพระมหาสมชาย ฐานวุฒฺโฑ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรม ฐานขัดหมายเรียกว่า เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมมีหมายเรียกสองครั้ง หากพบว่าไม่มีเหตุอันควรที่จะไม่มีก็ออกหมายจับก็ต้องทำตามนั้น โดยเราต้องไปขอหมายจับจากศาลยุติธรรม และบอกไม่ได้ว่าศาลจะอนุมัติออกหมายจับให้หรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านั้นมีการขอเลื่อนเข้ารายงานตัวตามหมายเรียกไปแล้ว แต่ทางดีเอสไอไม่อนุมัติ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน การเลื่อนต้องดูด้วยว่ามีเหตุอันควรหรือไม่ ถ้าควรก็คงไม่ดำเนินการถ้าเห็นว่าไม่ควรคงมีการพูดคุยกันแล้วว่าท้ายที่สุดก็ไปถึงหมายจับ ซึ่งศาลอาจจะมองอีกมุมหนึ่งได้ถือเป็นเรื่องปกติ ฉะนั้นต้องคอยดูไป

เมื่อถามว่าปัญหาวัดพระธรรมกายที่ยืดเยื้อมานานจะมีทางออกหรือยัง รัฐมนตรียุติธรรม กล่าวว่า เห็นทางออกนานแล้ว แต่ถ้าจะทำเมื่อไหร่จะบอกเอง ซึ่งแนวทางดำเนินการนั้นเคยพูดไปหลายครั้งแล้ว และขณะนี้ยังได้รับการติดต่อจากคนที่ประสานงานผู้ปกครองทางสงฆ์ ทั้งมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าคณะจังหวัด ยังมีการพูดคุยกัน ซึ่งดีเอสไอไม่ได้หยุดทำงาน เพราะคดีนี้มีผู้ต้องหาและผู้ถูกกล่าวหาจำนวนมาที่เราต้องรวบรวมพยานและสอบสวนกันไป โดยยึดหลักว่าต้องไม่ทำให้เกิดปัญหามากขึ้น

Advertisement

เมื่อถามย้ำว่าจะมีการเข้าตรวจค้นวัดอีกครั้งหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ต้องถามพนักงานสอบสวนโดยหน้าที่และหลักการทำงานถ้ายังไม่ได้ตัวผู้ต้องหาก็ต้องไปค้น จะปล่อยไปได้อย่างไร แต่หากเข้าไปแล้วเกิดเหตุการณ์เหมือนครั้งแรกก็ไปต้องเข้าไปเพราะจะเป็นเหมือนครั้งแรก ทั้งนี้คดีนี้มีอายุควาหรือกำหนดไว้อยู่แล้ว เมื่อได้ผู้ต้องหาอัยการก็สั่งสอบเพิ่มเติมและให้เรียกหรือไม่เรียกก็ตาม หรือพนักงานสอบสวนจะทำตามหมายจับที่มีอยู่แล้วหรือไม่ก็ไปขอหมายค้น มีสองอย่างแล้วแต่จะดำเนินการ ทั้งนี้หากยังไม่ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหาก็ยังไม่สามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายจากในคดีดังกล่าวสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นได้ เพราะยังไม่ยุติในชั้นศาลซึ่งในชั้นนี้เรากำลังหาคนผิดที่นำเงินของสหกรณ์ฯไปอย่างไม่ถูกต้อง แต่เมื่อยังไม่มีคนผิดตามกระบวนการยุติธรรมจึงยังเรียกเงินคืนไม่ได้ จึงต้องเร่งรัดเพื่อให้ศาลยุติธรรมตัดสิน

“ผมเข้าใจทุกเรื่อง ว่าทุกคนอึดอัด ทั้งเจ้าหน้าที่ ประชาชนคนที่มอง คนที่รักความเป็นธรรม คนที่ต้องการให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปได้ และยังไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบในสมัยผมหรือเปล่า แต่พยายามทำให้จบ เพราะคดีนี้เกิดก่อนที่ผมมา และยังสงสัยว่าทำไมไม่ทำ สื่ออยากให้จบสมัยผมหรือไม่ รัฐบาลเลือกตั้งเขาก็ทำได้เพราะคนที่เป็นรัฐบาลเข้ามาก็ต้องสานงานต่อทั้งหมด หรือสื่อกลัวว่าเขาจะไม่ทำ ถ้าไม่กลัวก็รอไปสิ จะมาบีบอะไรให้ผมทำ เพราะผมก็ทำให้ดีที่สุด สื่อถามอย่างกับกลัวว่ารัฐบาลเลือกตั้งเข้ามาแล้วจะไม่ทำ” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image