ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
สืบเนื่องกรณีการไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬ เพื่อสร้างสวนสาธารณะโดย กทม. ตามแผนแม่บทเมื่อ 50 ปีก่อน ซึ่งเป็นปัญหายืดเยื้อมานาน 24 ปี โดยมีความพยายามในการพูดคุยเพื่อหาทางออกหลายครั้ง ต่อมาชุมชนยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง และยื่นจดหมายคณะกรรมการสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร ขอให้ทำหน้าที่เป็นกลไกกลางในการจัดตั้ง “คณะกรรมการหลายฝ่าย” รวมถึงจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ต่อมา พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกมายืนยันว่าจะดำเนินการรื้อถอน กระทั่งสมาพันธ์ผู้อยู่อาศัยระหว่างประเทศ (ไอเอไอ) ส่งจดหมายเปิดผนึกลงวันที่ 25 ก.ค. ถึง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และรัฐบาลไทยแสดงความห่วงกังวลถึงแผนการรื้อชุมชนซึ่งขัดต่อกฎหมายระหว่าง ประเทศ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลไทยหยุดการไล่ที่และหาแนวทางแก้ปัญหาที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ส.ค. นายวัลลภ ตั้งคณานุรักษ์ หรือ ครูหยุย ประธานคณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจนเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และพลเอกธีรวัฒน์ บุญยะประดับ กรรมาธิการวิสามัญและประธานที่ปรึกษา ได้เดินทางไปยังชุมชนป้อมมหากาฬ เขตพระนคร กรุงเทพฯ เพื่อรับฟังข้อเท็จจริง ความเป็นมาและสภาพปัญหาของชุมชน เพื่อหาแนวทางการแก้ไข โดยนายธวัชชัย มหาวรคุณ ประธานชุมชนให้การต้อนรับ และพาเยี่ยมชมวิถีชีวิตอีกทั้งภูมิปัญญาของชาวบ้าน อาทิ การทำกรงนก และการปั้นเศียรพ่อแก่ เป็นต้น รวมถึงเล่าประวัติความเป็นมาของชุมชนซึ่งหลายครอบครัวอยู่อาศัยมานานหลายชั่วอายุคน เช่นบ้านของตนอยู่มา 6 ชั่วคน รวม 111 ปี สำหรับทางออกขอให้ระงับการไล่รื้อ จากนั้นปรับชุมชนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาง สนช. จะนำข้อมูลและทางออกต่างๆตามที่ชุมชนนำเสนอไปยื่นแก่สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป