เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงาน “เปิดใจ …การต่อต้านการค้ามนุษย์ของไทย” ว่า ได้หารือถึงเรื่องรูปแบบการจัดตั้งศูนย์รองรับ พักพิง สำหรับแรงงานที่มีปัญหา โดยเฉพาะในกลุ่มของแรงงานต่างด้าวในกิจการประมง ซึ่งจะใช้ศูนย์สวัสดิภาพและธรรมาภิบาลแรงงานประมงสงขลา (Stella Maris) มาเป็นต้นแบบในการดำเนินการ ซึ่งเครือข่ายภาคประชาสังคม (เอ็นจีโอ) มีแผนจะขยายไป 6 ศูนย์ ได้แก่ เกาะแสมสาร จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.สมุทรปราการ จ.ตราด จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ปัตตานี ซึ่งกระทรวงแรงงานจะเข้าไปสนับสนุนงบประมาณ และจัดหาสถานที่ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ขณะนี้พื้นที่ที่มีความพร้อมดำเนินการคือ เกาะแสมสาร จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง
ม.ล.ปุณฑริก กล่าวอีกว่า ส่วนกระทรวงแรงงานนั้นจะจัดตั้งศูนย์ร่วมบริการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว โดยระยะแรกจะจัดตั้งในพื้นที่ 10 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ สมุทรสาคร สุราษฎร์ธานี สงขลา สมุทรปราการ ชลบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น ตาก และระนอง ทำงานร่วมกับเอ็นจีโอในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงการช่วยเหลือแรงงานไทยที่ไปทำงานบนเรือประมงไทยในประเทศอินโดนีเซีย โดยล่าสุดได้ช่วยเหลือกลับประเทศแล้ว 1,488 คน พบว่ายังมีแรงงานไทยจำนวนหนึ่งตกค้างและต้องการกลับ ส่วนแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาไทยแล้วได้ยื่นคำร้องต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เพื่อให้ได้รับเงินค่าจ้างและสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายแล้ว 221 คน ได้รับเงินค่าจ้างและสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายทั้งหมดแล้วรวมเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาท
ม.ล.ปุณฑริก ยังกล่าวถึงกรณีแรงงานสัญชาติพม่า 57 คน และชาวโรฮิงญา 5 คน รวม 62 คน เข้าร้องเรียนตำรวจ จ.สงขลา ถูกนายหน้าหลอกให้ไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ว่า จากการตรวจสอบพบว่าในจำนวนนี้มีหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) 6 คน จ่ายเงินให้นายหน้าคนละ 8,000 บาท และรวมตัวกันที่บ้านร้าง แต่ผ่านไป 5 วัน นายหน้ายังไม่ไปรับ ขณะนี้กรมการจัดหางาน (กกจ.) กำลังติดตามตรวจสอบว่าแรงงานกลุ่มดังกล่าวทำสัญญาหรือถูกนายหน้ากลุ่มใดชักชวนให้ไปทำงาน มีการขออนุญาตไปทำงานและเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่
