4 กับดักที่ฉุดรั้ง โดย ณรงค์ ขุ้มทอง

“ผมรู้สึกเหมือนจำเลย ต้องทำงานให้เสร็จ นั่นคือปัญหาของผม แต่ก็เป็นแรงผลักดันให้ต้องทำมากยิ่งขึ้น ปัญหาของผม แต่ก็เป็นแรงผลักดันให้ต้องทำมากยิ่งขึ้น การทำงานต้องเชิงรุก ไม่ควรทะเลาะกัน ต้องคิดใหม่ ขอกำลังใจให้ผมบ้าง ผมเสียเวลาพักผ่อนมาเกือบ 2 ปี แล้วควรได้พักผ่อนแต่ทำไม่ได้ประเทศนี้เป็นของผม แผ่นดินนี้เป็นของผม และทุกคนต้องช่วยกันพัฒนา”

เป็นคำกล่าวของท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเป็นประธาน ประชุมประจำปีของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในการร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564)

จะเห็นได้ว่าถ้อยคำของท่านบ่งบอกถึงเหนื่อยล้าแต่ไม่ท้อ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาบริหารประเทศ 2 ปี ดูเหมือนประเทศเดินหน้าไปได้ระดับหนึ่งแต่ถ้ามองให้ลึกลงไป พบว่าท่านนายกฯประยุทธ์ยังหนีไม่พ้น 4 กับดักที่เป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนประเทศ ดังนี้

1.กับดักความขัดแย้งทางการเมือง

Advertisement

ต้องไม่ปฏิเสธว่าความขัดแย้งของคนไทยมาจากการเมืองเป็นตัวเร่งตัวสร้างความขัดแย้ง การต่อสู้ของนักการเมืองเพื่ออำนาจรัฐ นำไปสู่ความขัดแย้งระดับภาค แยกภาคของประเทศเป็นฐานเสียง พรรคหนึ่งยึดภาคใต้ และภาคกลางบางส่วนภายใต้ “พรรคของเราคนของเรา” อีกพรรคครองภาคเหนือ+ภาคอีสาน และภาคกลางบางส่วนเช่นกัน ภายใต้นโยบายประชานิยม สโลแกนคิดใหม่ทำใหม่ 2 พรรค แย่งชิงอำนาจกัน สุดท้ายมีคนกลางคือกองทัพเข้ามายึดอำนาจ

ประเทศภายใต้การบริหารของนักการเมือง นำประเทศสู่ความเลวร้าย คอร์รัปชั่นปล่อยปละละเลยกฎหมายไร้ความหมาย ป่าไม้ถูกทำลาย ที่ดินหลวงถูกยึดครองจากนายทุนและนักการเมือง ในทะเลมีแต่เครื่องมือจับปลาผิดกฎหมาย ค้าแรงงานเด็กและแรงงานต่างด้าว ถูกประเทศมหาอำนาจต่อต้าน ตรวจสอบอย่างหนัก 2 ปีของนายกฯตู่ เป็น 2 ปีที่เหนื่อยยากและท้าทายยิ่ง

รัฐธรรมนูญใหม่ ฉายารัฐธรรมนูญปราบโกง นักการเมืองดิ้นพล่าน โอดครวญ เหมือนผีถูกจับใส่หม้อไห แต่ประชาชนเจ้าของประเทศกลับเงียบ แต่ด้วยนิสัยคนไทยเจ็บแล้วไม่หลาบจำ การลงมติ 7 สิงหาคม จึงลูกผีลูกคน

Advertisement

สุดท้ายพิสูจน์ให้เห็นว่า ถึงคราวผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องสำคัญกว่าประเทศชาติเสมอ เห็นได้จากพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค ก่อนหน้านี้มองหน้ากันไม่ติด ไม่เหยียบเงา ตายไม่เผา แต่กลับมารักกันร่วมใจกันต่อต้านการลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญ 7 สิงหาคม 2559 นี้ นายกฯอย่ากลัวพวกกระสือดูดเลือดประเทศชาติ มีคนวางแผนไล่นายก แต่ก็มีคนวางแผนสู้เพื่อชาติพร้อมๆ กับท่านนายกฯตู่เหมือนกันนะ

การปรองดองไม่ได้รับการเหลียวแล บางอย่างดูเหมือนรัฐบาล 2 มาตรฐาน เช่น มีผู้บริหารท้องถิ่นรายหนึ่งถูกตั้งข้อสงสัย บริหารราชการไม่โปร่งใสแต่ไม่โดน ม.44 เหมือนกับผู้บริหารด้านอื่นๆ ที่โดนกันทั่วหน้า นี่คือกับดักที่ 1 ที่ทำให้ท่านนายกฯประยุทธ์ติดหล่ม อย่า 2 มาตรฐานเด็ดขาด คนเขาฉลาดแล้วนะ

2.กับดักด้านคุณภาพคน คุณภาพทางการศึกษา

ด้านการศึกษา ท่านนายกฯประยุทธ์ ทุ่มเทและสนใจมาก 2 ปีเปลี่ยนรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาฯ 2 คน ผลงานที่เข้าตาคือส่งเสริมการอาชีวะ ปราบการคอร์รัปชั่นในกระทรวงศึกษาธิการ ปรับโครงสร้างการบริหารระดับภูมิภาคมีทั้งคนเห็นด้วยและคัดค้าน กระทรวงนี้มีคนเก่งเยอะ คนเอาตัวรอดก็เยอะ คนที่เห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องก็เยอะ ผู้บริหารแบบเช้าชามเย็นชาม ประเทศล้าหลัง การลงทุนนับแสนล้าน แต่ผลสัมฤทธิ์ตกต่ำ ขาดการติดตามและประเมินอย่างต่อเนื่อง ขาดการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน

โรงเรียนขาดคุณภาพทางการบริหารจัดการ ผู้บริหารไร้ประสบการณ์และคุณภาพ โรงเรียนระดับอำเภอและห่างไกลขาดการดูแลติดตามและตรวจสอบ ยังโชคดีมีโครงการดาวเทียม DLTV และ DLITV พอกู้หน้าได้บ้าง นโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ไร้ ผลผู้บริหารไม่ลึกซึ้งในนโยบายหลัง 14.30 น. เด็กยังเรียนกันอย่างหน้าดำหน้าแดงทั้งๆ ที่ต้องการลดภาระการเรียนกรอบ 4H ผู้บริหารไม่เข้าใจครูไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการสอนเด็กคิดไม่เป็นทำไม่เป็น ครูยืนหน้าห้องบอกความรู้เหมือนเดิม ความคิดความเชื่อไม่เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริหารและครูไม่เปลี่ยน สุดท้ายคุณภาพของเด็กไทยยังตกอยู่ในหลุมดำแห่งหายนะต่อไป

3. กับดักด้านสังคมและวัฒนธรรม

โลกยุคไร้พรมแดน สังคมก้มหน้าระบาดอย่างหนัก ไทยเป็นประเทศที่ใช้สมาร์ทโฟนระดับต้นๆ ของเอเชียและของโลก โทรศัพท์และแท็บเล็ตเป็นปัจจัยที่ 6 ของคนไทยเด็กไทย ยาเสพติดระบาดหนัก นักเรียนระดับ ป.1 เสพยา ระดับ ป.4,ป.5,ป.6 ท้องไม่มีพ่อ ข่าวข่มขืนผู้หญิงมีทุกวัน วัดไม่ใช่ที่พึ่งของคนไทยและเด็กไทย พระพาณิชย์ วัดพาณิชย์มีทุกจังหวัด ลูกฆ่าพ่อบังเกิดเกล้า พ่อข่มขืนลูกในไส้ของตัวเอง ครูไม่ใช่ครู แต่เป็นแค่ผู้เอาความรู้มาบอก

รัฐอ่อนแอ แค่จัดการกับเจ้าอาวาสแห่งหนึ่งต้องระดมทหารตำรวจนับร้อยเข้าจับกุมแต่ล้มเหลว ตำแหน่งพระสังฆราชประมุขแห่งศาสนาและสงฆ์ แต่งตั้งไม่ได้ โดนข้อหามีรถหรู และหนีภาษีอีกต่างหากสังคมขาดคนดี คนเสียสละ เพื่อชาติและส่วนรวมรัฐแก้ต้องกลับหลังหันสังคมไทย สอนลูกหลานใหม่ใช้คำสอนของศาสนามาเป็นเครื่องมือฝึกคนสอนคน คัดครูพันธุ์ใหม่ที่มีศีลธรรมที่ดีสอนให้รู้จักหน้าที่ของพลเมืองที่ดี

กับดักนี้ท่านนายกฯประยุทธ์และรัฐบาลเหนื่อยมากแทบไม่มีอะไรให้เห็น ค่านิยม 12 ประการ ยังไม่พอรับมือกับความเลวร้ายและไหลเชี่ยวทางสังคมที่ไร้พรมแดน การผลิตครูและผู้บริหารต้องเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีการ ได้มาช้าไม่ได้ แบบเดิมไร้ผล

4.กับดักด้านเศรษฐกิจ

ด้านนี้ท่านนายกฯประยุทธ์และคณะเหนื่อยมากที่สุด รัฐบาลมาจากปฏิวัติสังคมโลกรังเกียจเศรษฐกิจโลกผันผวนเกือบทุกประเทศ 2 ปี เปลี่ยนรัฐมนตรีเศรษฐกิจ 2 คน ประเทศไทยพึ่งการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลัก สินค้าเกษตรยางพาราราคาตกต่ำและแนวโน้ม 5 กิโลร้อย น้ำมันราคาถูก ยางเทียมจากน้ำมันเข้ามาแทนที่อุตสาหกรรมต่างๆ ทรงตัวพร้อมหนีไปอยู่ประเทศอื่น เพราะค่าแรงต่ำ ประเทศไทยมีกรรม คนรุ่นหลังคิดอะไรไม่เป็น ดีแต่พูด สร้างภาพขาดสปิริต ทั้งที่ประเทศไทยทำเลดีและเหมาะอยู่ท่ามกลางเพื่อนบ้านปลอดจากภัยธรรมชาติ เช่น ภูเขาไฟ มีทะเลล้อมรอบตอนล่าง พื้นที่เหมาะกับการสร้างเส้นทางเดินเรือและค้าขาย ขนาดองคมนตรีเสนอแนะเรื่องคลองไทยเป็นทางเลือกให้กับประเทศ

มีคนเสนอให้ท่านนายกฯ ทำการศึกษาความเป็นไปได้เรื่องคลองไทยแต่นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีปฏิเสธ ทั้งๆ ที่เขาเสนอให้ทำการศึกษา อยากรู้นักถ้านายกฯสั่งให้ศึกษาความเป็นไปได้ของคลองไทยนายกฯ และรองนายกฯ เสียหายตรงไหนและมีส่วนได้ประโยชน์ตรงไหน 20 ปี ประเทศล้าหลังเกือบทุกด้าน มีรถไฟฟ้า หลายสีในกรุงเทพฯ ไม่ใช่ทางเลือกใหม่ของประเทศ 20 ปี เรามีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า

เรามีแต่ธรรมชาติสร้างให้เรามีแต่บรรพบุรุษสร้างไว้ให้ รู้ไหมพระสยามเทวาธิราชกำลังมองดูและกำลังจะร้องไห้อยู่นะกล้าสิ สร้างคลองสร้างงานเพื่อลูกหลานของเรากล้าเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นยุทธศาสตร์ของโลกทางการเดินเรือ อยากบอกให้ท่านนายกฯประยุทธ์ และท่านรองนายกฯประวิตร ศึกษายุคที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ บริหารประเทศ ท่านเจอก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยท่านกล้าทำ กล้าลงทุนแล้วประกาศว่า “ไทยเข้าสู่ยุคโชติช่วงชัชวาล”

และเรื่องคลองไทย ท่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เคยพูดว่า “เราได้แต่คิดๆ แล้วพูดๆ แล้วประชุมสัมมนาจนเอกสารกองเป็นตั้งเช่น โครงการขุดคอคอดกระก็ได้แต่พูดยังไม่เห็นใครคิดทำอะไร”

เห็นไหมท่านนายกฯประยุทธ์ ท่านรองนายกฯประวิตร คนที่คิดและกล้าเพื่อประเทศสุดท้าย เป็นวีรบุรุษของชาติเสมอหรือถ้าท่านไม่กล้าไม่คิดถึงอนาคตของชาติของลูกหลาน แน่นอนท่านจะเป็นจำเลยดังที่ท่านได้กล่าวไว้ข้างต้น สุดท้ายประชาชนและประเทศชาติรับกรรมต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image