เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 สิงหาคม ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด รวมถึงการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายรอบ 2 ว่า ไม่อยากให้นำเรื่องเข้าค้นวัดพระธรรมกายไปผูกโยงกับเรื่องหลังวันลงคะแนนออกเสียงประชามติ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา และไม่อยากให้พูดถึงเรื่องเหล่านี้ คือหมายความว่าไม่อยากให้ไปพูดถึงชื่อบิ๊กเนมเหมือนผู้ต้องขังที่ได้รับการพักโทษที่เป็นบิ๊กเนม ซึ่งคดีฟอกเงิน คดีฉ้อโกง หรืออะไรก็แล้วแต่ อย่าลืมว่าวันนี้ใครที่เกี่ยวข้องในเรื่องอะไรก็ทำการสอบสวนไปด้วย และสำนวนคดีทางอัยการก็ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนมาดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งตรงนี้ก็ยังไม่ได้สอบถามไปยังพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่าเรียบร้อยหรือไม่ มีความบกพร่องตรงไหนหรือไม่ ซึ่งรายละเอียดส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับรายงานจากอธิบดีดีเอสไอ
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า เข้าใจอยู่แล้วว่าสังคมกำลังมองเรื่องนี้อยู่ ซึ่งก็อยากให้เข้ามาสู่ในกระบวนการยุติธรรม อีกทั้ง วันนี้ทราบว่าพระมหาศาสนมุนี (ธนกิจ ศรีอุ่นเรือน ) หรือหลวงพี่แป๊ะ ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอตามที่มีการออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในคดีถโบราณ ยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งตนก็ชื่นชมที่เดินเข้ามาตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนข้ออ้างอื่นๆที่เขาไม่เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ตนมองว่าเป็นเรื่องของโวหารเท่านั้น
