วันที่ 4 กุมภาพันธ์ หลังเกิดภาวะแล้งขยายวงกว้าง น้ำตนทุนในเขื่อนเหลือน้อย ใช้ได้เพียงอุปโภคบริโภค ชลประทานขอความร่วมมือหยุดการทำนา พร้อมจ้างงานในช่วงหยุดการทำนา และมีชาวนาบางส่วนหันไปปลูกพืชใช้น้ำน้อยสู้ภัยแล้ง แต่ก็ยังมีชาวนาบางส่วน ที่ยังลงทุนปลูกข้าวทำนา สู้ภัยแล้ง หาเลี้ยงครอบครัว เนื่องจากไม่มีความชำนาญในอาชีพด้านอื่น โดยสู้ลงทุนในการขุดบ่อบาดาล ใช้น้ำหล่อเลี้ยงผลผลิตต้นข้าวภายในนา ประสบปัญหาหนูกัดกิน ข้าวดีดข้าวเด้ง ผลผลิตเสียหาย หลังเก็บเกี่ยวนำไปขายได้ไม่คุ้มการลงทุนไป
นายนภดล แก้วใยบุญ อายุ 53 ปี ชาวนา หมู่ 5 ตำบลคลองวัว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า หลังเกิดภัยแล้งลุกลาม ตนเองยังคงเช่าที่นาจำนวน 10 ไร่ เพื่อปลูกข้าว หวังสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ได้ไปกู้หนี้ยืมเงินมาจำนวนหนึ่งหลายหมื่นบาท ในการลงทุนทำนา จำนวน 10 ไร่ โดยมีค่าเจาะบ่อบาดาล ค่าไถนาเม็ดพันธุ์ค่าปุ๋ยค่ายา และต้องต่อสู้กับนกและหนูที่ชุกชุม และมาเจอกับปัญหาข้าวดีดข้าวเด้ง ผลผลิตเสียหาย หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตนา 10 ไร่ ได้ข้าวแค่ 3 ตัน นำไปขายได้เงินสองหมื่นกว่าบาท ทำให้ขาดทุนเป็นหนี้เพิ่มขึ้น และก็ไม่ยอมแพ้และขอสู้ทำนาต่ออีกครั้งหลังลงทุนขุดบ่อบาดาลไปแล้ว และไม่สามารถทำอาชีพอื่นได้เนื่องจากไม่มีความชำนาญ ก็ต้องทำนาหวังสร้างรายได้หาเงินใช้หนี้ต่อไป
