ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค. เหตุการณ์ปลากระชังตายครั้งนี้เกิดขึ้นที่บ้านนาเพียง ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบปลานิลและปลาทับทิมที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ ได้ลอยคอและตายเกลื่อนเต็มกระชัง เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาต้องเร่งเก็บซากปลาที่มีอายุใกล้ขายขึ้นมาชำแหละเอาเครื่องในออก ก่อนหมักเกลือเพื่อป้องกันการเน่าเสีย โดยทำการชำแหละปลาให้ได้มากที่สุด เพื่อให้สามารถจำหน่ายได้แม้จะต้องขาดทุนจากการเลี้ยง แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
ด้านนายธวัชชัย บุญใบ เจ้าของฟาร์มปลาห้วยใหญ่นาเพียง บอกว่า ตนเองได้เลี้ยงปลากระชังทั้งหมด 150 หลุม โดยปลาที่เลี้ยงมีอายุระหว่าง 1 ถึง 4 เดือน ขนาดน้ำหนักปลา 3 ขีด ถึง 1 กก. ซึ่งปลาส่วนหนึ่งกำลังอยู่ระหว่างการจับขาย แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่คนงาน ช่างก่อสร้างฝายกั้นน้ำห้วยใหญ่ ได้ทำการขุดระบายน้ำภายในห้วย ส่งผลทำให้น้ำในห้วยที่เสียไหลลงลำน้ำพอง และใกล้กับบริเวณที่เกษตรเลี้ยงปลากระชัง จึงเป็นสาเหตุทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้ตายลงเป็นจำนวนมาก เฉพาะฟาร์มปลาของตนนั้น จากการประเมินพบว่าปลาน็อกน้ำและตายลงเนื่องจากขาดออกซิเจนในน้ำประมาณ 15 ตัน มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ตนเองและเพื่อนๆ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว เพื่อเอาผิดกับทางผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่เป็นต้นเหตุปล่อยน้ำจากห้วยใหญ่ไหลลงสู่ลำน้ำพอง จนส่งผลกระทบกับมลภาวะกับลำน้ำพอง และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชัง
