รายงานข่าวจากจังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ระบุว่า จากการตระเวนสังเกตการณ์บริเวณท่าเทียบเรือประมงจังหวัดภูเก็ตองค์การสะพานปลา ในคลองท่าจีนเกาะสิเหร่ตำบลรัษฎาอำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต ในบ่ายวันเดียวกันนี้พบว่านายท้ายเรือหรือไต๋เรือของแพปลาต่างๆที่เป็นกองเรือประมงไทย ที่มีพื้นที่จับสัตว์น้ำในทะเลอันดามัน รวมทั้งเรือประมงเบ็ดราวน้ำลึกทูน่าของจีนและญี่ปุ่น ที่นำปลาทูน่ามาขึ้นฝั่งแปรรูป และส่งออกที่จังหวัดภูเก็ต จำเป็นต้อง หยุดจับสัตว์น้ำนานหลายวันแล้ว เนื่องจากได้รับอิทธิพล จากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรง พาดผ่าน ทะเลอันดามัน
นายยศธร ชาลีวัลย์ เจ้าพนักงานประมงอาวุโสหรือประมงอำเภอเมืองภูเก็ตกล่าวว่า จากสถิติข้อมูลการจดทะเบียนเรือ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ของจังหวัดภูเก็ต ประกอบไปด้วยเรือประมงพาณิชย์คือเรืออวนล้อมจับ หรือ อวนดำ ตลอดจนอวนลากเรือปั่นไฟ เรือไดืเรือตังเก เรือครอบปลากะตัก รวมกันมากถึง 356 ลำ และเท่าที่เห็นในวันนี้ ปรากฏว่า ไต๋เรือ นำเรือมาจอดที่บริเวณหน้าท่าเทียบเรือประมงจังหวัดภูเก็ตองค์การสะพานปลาประมาณ 60-70 ลำ
อย่างไรก็ดี กองเรืออวนลาก จำนวนประมาณร้อยกว่าลำ กระจายตัวจอดอยู่ที่ท่าเทียบเรือของภาคเอกชน ฝั่งตรงกันข้ามกับท่าเทียบเรือประมงจังหวัดภูเก็ต เช่น แพปลา ป.พิชัยนาวา แพปลาสินไพบูลย์ และแพปลาแสงดำรง และเรืออวนลากที่เหลือบางส่วน ไต๋เรือจะนำไปจอดหลบลมมรสุมที่เกาะแก่งบริวารอื่นๆ ในน่านน้ำจังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงแทน สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น กับกองเรือประมงไทยและกองเรือประมงนานาชาติในจังหวัดภูเก็ตครั้งนี้ ส่งผลทำให้ มี ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำจำนวนปริมาณน้อยที่นำมาขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรือประมงจังหวัดภูเก็ต เพื่อป้อนตลาดผู้บริโภคในครัวเรือน รวมทั้ง ภัตตาคาร และร้านอาหาร โรงแรมในจังหวัดภูเก็ตและบรรดาพ่อค้าแม่ค้าหรือผู้ประกอบการร้านอาหาร จำเป็นต้องใช้สัตว์น้ำเป็นบางส่วนที่สำรองเอาไว้และสั่งซื้อสัตว์น้ำจากกระชังเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพิ่มเติม
