หากไม่ย้อนกลับไป “สำรวจ” และ “ศึกษา” ฐานข้อมูลใหญ่หลังสถานการณ์วางเพลิง วางระเบิด 17 จุด 7 จังหวัด
จะไม่”เข้าใจ”ตำรวจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทบาทของตำรวจที่กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนครศรีธรรมราช
เป็น 3 ฐานข้อมูล
1 ข้อมูลจากการเผยแพร่เฟซบุ๊กส่วนตัวของ ดร.อาทิตย์ อุไร รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต
1 ข้อมูลการแถลงของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
1 การออกมาแสดงความรู้สึกของ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด และ พ.อ.วินธัย สุวารี
3 แหล่งข้อมูลนี้แหละที่มี “ผลสะเทือน”
ผลสะเทือนนำไปสู่การปรากฏขึ้นของข่าว”หน่วยพิทักษ์ ความปลอดภัยเฉพาะกิจ”
และหมายจับ นายศักรินทร์ คฤหัสถ์
ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อ้างข้อสังเกตจาก”ผู้อาวุโส”ที่เฝ้าติดตาม สถานการณ์บ้านเมือง
โดยจับตาไปยัง “สหรัฐอเมริกา”
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ระบุ “น่าจะเกี่ยวโยงกับคนในกลุ่มการเมือง และน่าจะเกี่ยวข้องกับผลประชามติ”
เช่นเดียวกับ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด
“เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมือง กลุ่มการเมืองมีหลายกลุ่มเชื่อว่าคงไม่คิดร้ายกับประเทศอย่างนี้ทุกกลุ่ม”
ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี คือ
“คงมีคำถามจากสังคมว่า มีใคร หรือทำไม ถึงใจร้ายกับประ เทศเช่นนี้”
นี่คือ “สัญญาณ” นี่คือ “ธง”
ผลอันเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในวันที่ 13 สิงหาคม เพียง 1 วันหลังเหตุการณ์
มีคุมตัว นายศักรินทร์ คฤหัสถ์
จากฐานขุดเจาะของบริษัทเชฟรอน ประเทศไทย สำรวจและผลิตจำกัด บริเวณอ่าวไทยเข้าสอบปากคำ
หลักฐานคือ “ภาพ”จากกล้องวงจรปิด
หนุ่มคนนี้เป็นพนักงานบริษัทเวทเธอร์ฟอร์ด เคเอสพี ซึ่งทำงานร่วมกับเชฟรอน
เชฟรอนอันเป็นบริษัทน้ำมัน”สหรัฐ”
ผลก็คือ มีการให้ความสนใจไปยัง “หน่วยพิทักษ์ความปลอดภัยเฉพาะกิจ” ซึ่งชุมนุมกันที่ อ.ฉวาง เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม
เรียกได้ว่า “ตื่นตัว”กันคึกคัก
นายศักรินทร์ คฤหัสถ์ เป็นคนเชียงใหม่ ทำงานเชฟรอน หน่วยพิทักษ์ความปลอดภัยเฉพาะกิจเกี่ยวพันกับเสื้อแดง
ทุกอย่างล้วน”เข้าเป้า” ตาม 3 ฐานข้อมูลใหญ่