เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม เวลา 08.00 น. ที่บริเวณหน้าว่าการอำเภอหล่มเก่า นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์, นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้, นายพุฒิพัฒน์ เลิศชวสิทธิ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พล.ต.ต.สัณห์ โพธิรักษา ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ ทำพิธีปล่อยกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ทหารและ อส.จำนวนกว่า 650 นาย เพื่อเปิดปฏิบัติการรื้อถอน 19 รีสอร์ตที่ถูกคำสั่งให้รื้อถอนหลังกำหนดเวลา 7 วัน แต่เจ้าของหรือผู้ประกอบการรีสอร์ตซึ่งเหลือเพียง 16 รายยังดื้อแพ่งไม่ยอมรื้อถอนเอง ทางคณะเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการรื้อถอนให้แทน และจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในภายหลัง
อย่างไรก็ตามหลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดปฏิบัติการ คณะเจ้าหน้าที่ได้พากันเคลื่อนย้ายกำลังไปยังเป้าหมายแรกได้แก่ รีสอร์ตโรงเตี๊ยม หมู่ 14 บ้านทับเบิก ต.วังบาล เพื่อเข้าปฏิบัติการรื้อถอน โดยเมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้พนักงานรีสอร์ตบางส่วนและช่างรับเหมากำลังเร่งทำการรื้อถอนบ้านพักและทางช่างแอร์ถอดแอร์ตามห้องพักในรีสอร์ต
จากนั้นนายชาญชัย ศรศรีวชัย นายอำเภอหล่มเก่าพร้อมนายประจักษ์ มิยา หัวหน้าหน่วยปฏิบัติพิเศษที่ 38 นำคำสั่งรื้อถอนเข้าแจ้งต่อนายกุญช์ภัสส์ พัฒนฉัตรรุ่งรุจ เจ้าของรีสอร์ต ซึ่งพยายามโต้แย้ง โดยอ้างไม่ได้รับความเป็นธรรมจากนั้นถามหาความรับผิดชอบหากสิ่งของและทรัพย์สินได้รับความเสียหายใครจะรับผิดชอบ พร้อมระบุด้วยว่าด้วยระยะเวลาเพียง 1 เดือน หากให้ขนย้ายทรัพย์สินคงไม่ทันและพอดีเป็นช่วงฝนตกทำให้เป็นอุปสรรค ทั้งนี้นายประจักษ์และนายชาญชัยกล่าวย้ำเพียงว่าต้องปฏิบัติตามหน้าที่
จากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมีการแยกทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย โดยเริ่มจากการตัดกระแสไฟฟ้าพร้อมยึดมิเตอร์ และการเข้าสำรวจสิ่งของและทรัพย์สินสังหาริมทรัพย์ภายในรีสอร์ตดังกล่าว จากนั้นมีการถ่ายบันทึกภาพทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นหลักฐาน พร้อมจัดทำบัญชีก่อนจะลงมือขนย้ายขึ้นรถบรรทุก เพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายไปเก็บที่โรงรถในค่ายทหารที่ อ.หล่มสัก จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดรื้อถอนจึงเข้าดำเนินการตัดรื้อถอดแกะงัดสิ่งปลูกสร้างต่างๆ
รายงานระบุว่า ในการเข้าปฏิบัติการรื้อถอนดังกล่าวนายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายชลทิศ สุรัศสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ นายพุฒิพัฒน์ เลิศชวสิทธิ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ และนายณรงค์ คงขำ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ ได้เดินทางมาอำนวยการปฏิบัติการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่โรงเตี๊ยมรีสอร์ต และปรากฏว่านายกุญช์ภัสส์และผู้ประกอบการรีสอร์ตรายอื่นได้หอบหลักฐานพยายามเข้าโต้แย้งกับนายชลทิศและนายบัณฑิตย์ โดยอ้างว่าถูกเลือกปฏิบัติอีกด้วย
นอกจากนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการรื้อถอนรีสอร์ตโรงเตี๊ยม ปรากฏว่ามีชาวม้งในพื้นที่รวมทั้งผู้ประกอบการเจ้าของรีสอร์ตในพื้นที่ต่างมายืนเฝ้าชมและสังเกตการณ์การรื้อถอนด้วยความสนใจ ในขณะที่บางรายใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพนิ่งและวิดีโอเก็บไว้อีกด้วย อย่างไรก็ตามระหว่างปฏิบัติการรื้อถอนปรากฏว่ามีฝนตกและลมพัดแรงและหมอกลงจัด จนทำให้สภาพอากาศมีความหนาวเย็นอีกด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายดำเนินการรื้อค่ารื้อถอนและขนย้ายและค่าเก็บรักษาสังหาริมทรัพย์ รวมระยะเวลา 5 วัน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประเมินราคาไว้เรียบร้อยแล้วเป็นยอดเงินราว 1,006,700 บาท
อนึ่งสำหรับรายชื่อ 19 รีสอร์ตที่อยู่ในคำสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ ได้แก่ 1.โรงเตี๊ยม 2.สานฝัน 3.คานาอัน-ร้านค้า 4.คานาอัน-บ้านพัก 5.ทับเบิกภูฎาน 6.ไร่ตายาย 7.บ้านสายหมอก 8.ภูทองคำ 9.อิงฟ้าภูทับเบิก 10.ทับเบิกวิลเลจ 11.เคียงดาว 12.มอนเตรีโอ 13.บ้านชมวิว 14.ประชารีสอร์ต 15.ทับเบิกอินดี้ (รื้อ 1 หลัง) 16.ทับเบิกอีโคแคมป์ 17.สกายวิว (รื้อเองแล้ว) 18.ลุงท้ายโฮมสเตย์ (2 หลังรื้อเองแล้ว) 19.รีสอร์ตไม่มีชื่อ (รื้อเองแล้ว)