พอแบกโฮจ้วงรื้อ เจ้าของรีสอร์ตภูทับเบิกฟิวส์ขาด! ร้องรังแกประชาชน ผู้ว่าฯสวนเวลาหมดแล้ว

วันที่ 19 สิงหาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคณะเจ้าหน้าที่เปิดปฎิบัติการรื้อถอนรีสอร์ตภูทับเบิก  ซึ่งปรากฎว่า ในช่วงบ่าย(14.00 น.) ทางเจ้าหน้าที่เริ่มใช้รถแบ็กโฮจำนวน 2 คันเข้าจ้วงรื้อถอนป้ายและอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่หน้ารีสอร์ต จากนั้นเริ่มขยับเข้าจะรื้อบริเวณอาคารด้านทิศเหนือของรีสอร์ต ส่งผลให้สถานการณ์เกิดความตึงเครียดขึ้นโดยทันที เนื่องจากนายกุญช์ภัสส์ พัฒนฉัตรรุ่งรุจ เจ้าของรีสอร์ตฯแสดงอาการไม่พอใจ จากนั้นได้เดินเข้าไปสอบถามนายบัณฑิต เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์โดยทันที จนเกิดการโต้แย้งปะทะคารมกันขึ้น
นายกุญช์ภัสส์อ้างว่า เมื่อเช้ายังแจ้งว่าจะรื้อถอนแบบวิญญูชน ไม่มีการใช้แบ็กโฮมาจ้วงแบบนี้ อันไหนถอดได้ก็ให้ถอด กระทั่งนายบัณฑิตย์กล่าวชี้แจงว่า พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้รื้อถอนเป็นเดือนแล้ว แต่เมื่อไม่ดำเนินการตามกฎหมาย เวลานี้จึงหมดเวลาที่จะให้คุณดำเนินการเองแล้ว คำสั่งศาลสั่งให้คุณออกมาหลายปีแล้ว แต่คุณก็ยังไม่ออกและขบวนการต่อไปทางป่าไม้ก็ยังมีขบวนการคิดค่าเสียหายที่ทำให้ธรรมชาติเสียหายอีก ทำให้นายกุญช์ภัสส์ตอบโต้ว่า ขั้นตอนยังสุดต้องให้เจ้าพนักงานคดีบังคับคดียังไม่สุด ทำแบบนี้ไม่ถูกต้องเป็นการรังแกประชาชน
จากนั้นนายกุญช์ภัสส์พร้อมพนักงานลูกจ้างพากันไปยืนบริเวณอาคารที่รถแบ็กโฮจะเข้ารื้อต่อเนื่อง พร้อมระบุว่าหากทำกันแบบนี้ขอยอมตายดีกว่า ทำให้มีเจ้าหน้าที่เข้าพยายามเจรจาพร้อมเชิญให้นายกุญช์ภัสส์ออกพ้นจากจุดบริเวณดังกล่าวเนื่องจากเกรงได้รับอันตราย แต่นายกุญช์ภัสส์ไม่เพียงปฎิเสธเท่านั้น ยังชักชวนให้พนักงานลูกจ้างยืนหยัดต่อไปแบบไม่ต้องเกรงกลัว กระทั่งทำให้รถแบ็กโฮต้องหยุดดำเนินการรื้อถอน แต่มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ชุดรื้อถอนจำนวน 80 นายพร้อมอุปกรณ์ทั้งค้อนและค้อนปอนด์ เหล็กชะแลงครบมือ เข้าทำการรื้อถอนด้วยมือแทน
ต่อมาเวลา 16.30 น.คณะเจ้าหน้าที่ได้ยุติการรื้อถอนในวันแรกเป็นการชั่วคราว โดยภาพรวมปฎิบัติการรื้อถอนตลอดทั้งวันส่วนใหญ่เน้นไปที่การจัดเก็บทรัพย์สินและสิ่งของสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่การรื้อถอนดำเนินการไปได้แค่เพียงราว 10%  โดยสิ่งปลูกสร้างที่ถูกรื้อถอนได้แก่ อาคารป้อมยอมและที่รับรองลูกค้า ร้านห้องชงชาอูหลง ร้านอาหาร
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image