ผ่านแล้ว! สนช.คลอดกม.แก้ปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่น บอกเป็นของขวัญวาเลนไทน์

สนช.คลอด กม.ป้องกันและแก้ปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่นรับวาเลนไทน์ หลังพบสถิติวัยรุ่นตั้งท้องไม่พร้อมอัตราสูงกว่าแสนรายอยู่ในสถานศึกษา

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ทำหน้าที่ประธาน เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.การป้องกันและการแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ…. ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่ง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีสาระสำคัญคือ การกำหนดให้มีคณะกรรมการการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ มีอำนาจหน้าที่เสนอนโยบายและยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นต่อคณะรัฐมนตรี เสนอแนวทางแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นต่อคณะรัฐมนตรี กำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ขณะที่สถานศึกษาต้องจัดให้มีการเรียนการสอนเรื่องเพศวิถีศึกษาและให้คำปรึกษาในเรื่องดังกล่าว ที่เหมาะสมกับวุฒิภาวะ วัยของนักเรียนและนักศึกษา พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา จัดให้มีระบบการดูแล ช่วยเหลือและคุ้มครองนักเรียนหรือนักศึกษาที่ตั้งครรภ์ให้ได้รับการศึกษาด้วยรูปแบบที่เหมาะสมและต่อเนื่อง รวมทั้งมีระบบส่งต่อให้ได้รับการบริการอนามัยเจริญพันธุ์และสวัสดิการอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งมีบทกำหนดโทษผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการ โดยไม่มีเหตุผลอันควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้คณะกรรมาธิการมีการแก้ไขถ้อยคำและเพิ่มเติมข้อความในมาตราต่างๆ เพื่อให้ความเหมาะสมและสมบูรณ์ ซึ่งสมาชิกเห็นด้วยกับแก้ไขเพิ่มเติมของคณะกรรมาธิการ และลงมติเห็นชอบในวาระ 3 ด้วยคะแนน 179 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ขณะที่ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่น แถลงว่า ภายหลังที่ประชุม สนช.ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบกฎหมายฉบับดังกล่าวแล้ว จะได้นำขึ้นทูลเกล้าฯและประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วจะมีผลใช้บังคับภายใน 120 วัน ซึ่งถือว่าเป็นของขวัญต้อนรับวันวาเลนไทน์ โดยร่างกฎหมายนี้เป็นประโยชน์สำหรับวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม มีเนื้อหาสำคัญเป็นการรวมนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติของกระทรวงต่างๆ เพื่อให้เกิดการทำงานในทิศทางเดียวกัน จากเดิมที่แต่ละกระทรวงต่างคนต่างทำงานโดยไม่มีเป้าหมายร่วมกัน ถือว่าเป็นประโยชน์เพราะจะมีการสอนเพศวิถีศึกษาให้แก่วัยรุ่น โดยกระทรวงศึกษาธิการจะเป็นผู้ออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอนให้เหมาะสมในแต่ละช่วงอายุ โดยมีการบัญญัติคำว่า วัยรุ่น คืออายุ 10-20 ปีบริบูรณ์ พร้อมทั้งให้อำนาจกระทรวงออกกฎหมายระเบียบในการปฏิบัติ และให้มีคณะกรรมการระดับชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมด้วยคณะกรรมการจำนวน 17 คน เป็นตัวแทนจากข้าราชการผู้ทรงคุณวุฒิ และตัวแทนของสภาเด็กและเยาวชนด้วย

Advertisement

ด้าน นพ.วิวัฒน์ โรจนพิทยากร กรรมาธิการกล่าวว่า ขณะนี้มีตัวเลขวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมจำนวนกว่า 1 แสนราย ถือเป็นอัตราที่สูงมาก และส่วนใหญ่อยู่ในสถานศึกษา ทั้งนี้ กฎหมายฉบับดังกล่าวถือว่าเป็นประโยชน์ เพราะจะทำให้วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้รับบริการด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ รวมทั้งการป้องกันไม่ให้มีการตั้งครรภ์ซ้ำอีก และเด็กจะไม่เสียอนาคต สามารถศึกษาต่อจนจบได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image