“วิษณุ” ชี้ใช้ ม.44 ออกกฎหมายคุม “ประชามติ”ได้ ย้ำไม่เขียนห้ามคนเห็นต่างรณรงค์

แฟ้มภาพ

เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำประชามติในสัปดาห์หน้าว่า กกต.มีหน้าที่ออกกฏระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ แต่ไม่มีอำนาจในการกำหนดโทษ เพราะเรื่องดังกล่าวต้องออกเป็นกฏหมายโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อกำหนดโทษ เช่น การฉีกบัตร ขัดขวางการออกเสียงประชามติ ซึ่งต่างจากการเลือกตั้งส.ส. ที่มีพ.ร.บ.การเลือกตั้งรองรับ ซึ่งการกำหนดโทษนั้น หากจะใช้มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ก็สามารถใช้ได้ แต่ไม่ใช่เป็นการใช้เพื่อไปหักล้างรัฐธรรมนูญมาตราใดมาตราหนึ่ง หากใช้แทนสิ่งที่จะออกแทน พ.ร.บ.เหมือนที่คสช.เคยทำมาแล้ว ดังนั้น หากจะกำหนดกติกาเกี่ยวกับการทำประชามติก็สามารถใช้มาตรา 44 นี้ได้ แต่หากว่าไม่สมควรก็สามารถออก พ.ร.ก.หรือ พ.ร.บ.ได้เช่นกัน ทั้งสามส่วนมีศักดิ์ศรีและสถานะเท่ากัน

นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2552 นั้น ไม่ได้รองรับการทำประชามติเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ แต่เกี่ยวข้องเช่น ถามความเห็นประชาชน เกี่ยวกับการสร้างเขื่อน เป็นต้น ซึ่งไม่ได้เตรียมการสำหรับกรณีการขัดขวางการทำประชามติ จึงไม่สามารถใช้แทนกันได้ เนื่องจากยังไม่มีความสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม หัวข้อต่างๆ เกี่ยวกับการประชามติ จะมีการหารือในรายละเอียดในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีการพูดคุยกันอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นวันออกเสียงประชามติ การแจกจ่ายร่างรัฐธรรมนูญให้ครบ 80% ว่ามีวิธีการอย่างไรบ้าง เรื่องงบประมาณในการจัดทำประชามติ รวมไปถึงเกณฑ์ในการออกเสียงประชามติ ว่าจะใช้เสียงข้างมากของจำนวนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงหรือเสียงข้างมากของจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสียงนอกจากนี้ จะได้หารือถึงการดำเนินการหากเกิดกรณีการขัดขวางการทำประชามติ หรือไม่ทำให้ประชามติเป็นไปอย่างเรียบร้อย ตลอดจนเรื่องการทุจริตด้วย

“คงไม่ถึงขนาดเขียนว่าห้ามรณรงค์หรือไม่ให้รณรงค์สำหรับผู้ที่ไม่เห็นด้วย คงเขียนว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่กกต.กำหนด แต่อาจจะมีสักมาตราเขียนว่าผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของกกต.ก็จะถูกลงโทษ ส่วนกรณีที่วิปสนช.ตีกลับร่างระเบียบการออกเสียงประชามติของกกต.นั้น คงมีเหตุผลในการตีกลับ เพราะในรัฐธรรมนูญ ชั่วคราวบัญญัติว่าในกกต.ออกประกาศกำหนดวิธีการโดยผ่านความเห็นชอบของสนช. กกต.จึงได้ส่งไป แต่วิปสนช.กลับบอกว่าที่เขียนมาทั้งหมดนั้น ถ้าเกิดมีการฝ่าฝืนจะรับโทษอย่างไร ขณะที่กกต.บอกว่าไม่มีอำนาจในการกำหนดโทษ วิปสนช.จึงบอกว่าให้ไปเสนอแนะรัฐบาลในการกำหนดโทษ ทั้งนี้การตีกลับของวิปสนช.จะไม่ทำให้การทำประชามติล่าช้าลง เพราะยังเหลือเวลาอีกมาก” นายวิษณุ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image