‘โตโต้’ผู้ต้องหาคดีฉีกบัตรงง บอกกระบวนการประหลาด อัยการยังไม่ส่งฟ้อง

จากกรณีนายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ อายุ 25 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายกสมาคมเพื่อเพื่อนและนักกิจกรรมทางการเมือง ได้กระทำการฉีกบัตรลงคะแนนเสียงประชามติ โดยมีนายทรงธรรม หรือเดฟ แก้วพันพฤกษ์ และนายจิรวัฒน์ หรือตั้ม เอกอัครนุวัฒน์ เป็นผู้ติดตามและถ่ายคลิปวิดีโอขณะที่นายปิยรัฐฉีกบัตรลงคะแนนเสียง ก่อนทั้งหมดจะถูกทางเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางนาและตำรวจ สน.บางนาควบคุมตัวมาสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ก่อนถูกแจ้งข้อหารวมทั้งหมด 3 ข้อหา เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา

คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น. ที่ สน.บางนา พ.ต.ท.สายชล หงษ์สุวรรณ์ รอง ผกก.สอบสวน สน.บางนา เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้นัดผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อรวบรวมสำนวนคดีก่อนส่งตัวทั้งหมดให้ทางอัยการ ซึ่งหากทางอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องก็จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งศาลจังหวัดพระโขนงเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

จากนั้นเวลา 09.45 น. นายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ พร้อมด้วยนายทรงธรรม หรือเดฟ แก้วพันพฤกษ์ และนายจิรวัฒน์ หรือตั้ม เอกอัครนุวัฒน์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สายชลเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดยทั้งหมดสวมเสื้อสีน้ำตาลคล้ายนักโทษ ซึ่งด้านหลังพิมพ์ระบุข้อความว่า “เรือนจำพิเศษประเทศไทย” โดยใช้เวลาเพียง 30 นาที

ต่อมานายปิยรัฐกล่าวว่า หลังจากนี้ตนและกลุ่มเพื่อนจะเดินทางไปที่อัยการภายหลังจากทางพนักงานได้นัดส่งตัวไป ทั้งนี้หากทางอัยการมีคำสั่งฟ้องหรือไม่นั้น ทางตนขอยืนยันว่าจะใช้สิทธิในชั้นสอบสวนเพื่อที่จะให้ปากคำเพิ่มเติมเนื่องจากมีหลักฐานที่จะมอบให้ นอกจากนี้ตนได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่มาโดยตลอดและไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี อย่างไรก็ตาม หากทางอัยการมีคำสั่งฟ้องจะดูวงเงินในการประกันตัวหากอยู่ในความเหมาะสม ประมาณ 10,000-20,000 บาทก็พร้อมจะประกันตัว แต่ถ้าหากวงเงินประกันถึง 100,000 บาทจะไม่ขอยื่นประกันตัวเนื่องจากเกินความเหมาะสม

Advertisement

นายปิยรัฐกล่าวต่อว่า สำหรับเสื้อที่ใส่มาในวันนี้เพียงแค่ต้องการจะสื่อให้เห็นว่าไม่เพียงแต่เรือนจำพิเศษที่จะคุมขังนักโทษ แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถถูกคุมขังได้ สำหรับที่ใส่ครึ่งท่อนมานั้นมีความหมายว่า พวกตนได้เดินทางเข้าสู่กระบวนการมาครึ่งทางแล้ว หลังจากนี้หากอัยการมีคำสั่งฟ้องก็จะได้ใส่เต็มตัวเพื่อยืนยันว่าพร้อมเข้าสู่กระบวนการดังกล่าว

โดยเมื่อ 13.10 น. นายปิยรัฐโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กระบุว่า ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนได้แจ้งต่อเราทั้ง 3 คนขณะนั่งรอพบอัยการว่า ทางผู้ใหญ่สั่งไม่ให้ส่งอัยการ พร้อมกับดึงสำนวนกลับไปที่ศูนย์บัญชาการเพื่อให้อำนาจตัดสินใจพิจารณา ส่งผลให้วันนี้เรื่องของเราทั้งสามยังไม่มีความแน่นอนอะไรต่อไป ซึ่งผมยื่นคำขาดต่อ จนท.ทุกคนว่า เมื่อผมให้ความร่วมมือทุกอย่างแล้ว กระบวนการยังประหลาดเช่นนี้อยู่ก็สั่งไม่ฟ้องเสีย หรือถ้าจะนัดมาอีกก็พบกันหลังเลือกตั้งปีหน้า มิเช่นนั้น จะออกหมายจับหมายเรียกก็เรื่องของคุณ

หลังจากนั้น นายปิยรัฐได้โพสต์ข้อความเป็นบทสนทนาว่า “สรุปไม่ส่งไม่ฟ้อง ก็เจอกันปีหน้าหลังเลือกตั้งก็แล้วกัน”
พ.ต.ท. ท่านหนึ่ง “ครับ”

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image