ป.รวบ“ผู้พันตึ๋ง” ขังคุก หลังเปลี่ยนชื่อ ยกทีม ข่มขู่เจ้าของเหมืองพลอย ยธ.เลิกพักโทษ

กองปราบบุก รวบ “ผู้พันตึ๋ง” หน้าบ้านพัก ขังคุกอีกรอบ หลังเปลี่ยนชื่อพบพฤติกรรม ยกทีม ข่มขู่เจ้าของเหมืองพลอย ยธ.เลิกพักโทษ ผิดเงื่อนไขคุมประพฤติ

เมื่่อช่วงเช้า 07.00 น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผบช.ก. รรท.ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก. 2 บก.ป. พ.ต.ต.ปกรณ์เกียรติ พงษ์ธนนิกร สว.กก.2 บก.ป. พ.ต.ต.นฤทธิ์ ผูกจิตร สว.กก. 2 บก.ป. ร.ต.อ.ภาคิน สุขพรหม และ ร.ต.อ.ทวี ศรีหะบุตร รอง สว.กก. 2 บก.ป. นำกำลังชุดสืบสวนกว่า 10 นายบุกจู่โจมเข้าจับกุมตัว นายเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ “ผู้พันตึ๋ง” ผู้ต้องหาเด็ดขาดในคดีฆาตกรรมนายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เมื่อปี 2544 และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการได้รับพิจารณาพักโทษจากกรมราชทัณฑ์ โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านบดินทรรักษา แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. ขณะที่ พ.ต.เฉลิมชัย กำลังนั่งรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิตชิ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ขพ 7852 เชียงใหม่ เดินทางออกจากบ้านพักภายในหมู่บ้านโดยมี นายบุญกล้า หมื่นเอ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ที่ 2 ต.วังน้ำเย็น อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เป็นผู้ขับรถให้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมได้ประสานงานมายัง พล.ต.ต.ชาญ ให้จัดกำลังชุดสืบสวน ออกติดตามจับกุมตัว นายเฉลิมชัย เป็นกรณีเร่งด่วน เนื่องจากตรวจสอบพบว่า นายเฉลิมชัย ละเมิดข้อบังคับในการพักโทษของกรมราชทัณฑ์ เนื่องจากผ่าฝืนเดินทางออกนอกพื้นที่ควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวนหลายครั้ง นอกจากนี้ที่สำคัญกระทรวงยุติธรรมยังได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของ นายเฉลิมชัย ว่ามีพฤติกรรมในการข่มขู่เรียกรับเงินจากผู้เสียหายใน จ.จันทบุรี ซึ่งพบว่ามีมูลเหตุที่สามารถรับฟังได้ในเบื้องต้นว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง ทั้งนี้ นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม จึงมีคำสั่งให้รองปลัดฯที่เกี่ยวข้องดำเนินการประสานงานให้ตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัว นายเฉลิมชัย กลับมาควบคุมตัวต่อที่เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ฐานละเมิดข้อบังคับเกี่ยวกับการพักโทษตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ฯ

14123973_10209831654686420_1485528543_o

Advertisement

รายงานข่าวระบุว่า สำหรับการจับกุมตัวในครั้งนี้ พ.ต.อ.อรุณ ได้ใช้วิธีการสืบสวนหาตำแหน่งที่อยู่ นายเฉลิมชัย ด้วยการสะกดรอย จนพบว่าเมื่อคืนวันที่ 24 สิงหาคม นายเฉลิมชัย ได้ดอดเข้ามาที่บ้านพักทาวเฮ้าส์ขนาด 25 ตารางวา ซึ่งพักอยู่กับภรรยาและลูก ภายในหมู่บ้านบดินทรรักษา ชุดสืบสวนจึงได้วางกำลังตั้งแต่คืนดังกล่าวล้อมรอบบริเวณบ้านพักไว้ โดยให้ชุดสอบสวนรวบรวมหลักฐานของกระทรวงยุติธรรมเพื่อจะขอหมายค้นต่อศาลเข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวในช่วงเช้าของวันที่ 25สิงหาคม จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.50 วันเดียวกันชุดสืบสวนพบว่า นายเฉลิมชัย ได้ขึ้นรถยนต์ดังกล่าวโดยนั่งที่เบาะหลังด้านซ้าย และมี นายบุญกล้า เป็นคนขับได้ขับรถออกจากบ้านพัก ชุดสะกดรอยจึงได้ส่งสัญญาณให้ชุดจับกุมที่รอดักอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้านขับรถยนต์เข้าปิดล้อมรถยนต์ของ นายเฉลิมชัย ขณะที่ชุดสืบสวนพร้อมอาวุธครบมือได้เข้าประกบรถยนต์พร้อมกับให้ นายเฉลิมชัย และนายบุญกล้า ลงจากรถโดยเร็วเนื่องจากเกรงว่าจะมีการพกพาอาวุธปืนติดตัวมาด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า อย่างไรก็ตาม นายเฉลิมชัย ได้ลงจากรถอย่างโดยดีและยกมือทั้งสองข้างให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโดยไม่ขัดขืน พร้อมกล่าวสั้นๆว่า “พี่ทำผิดอะไรหรือน้อง” ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตรวจภายในรถและควบคุมตัว นายเฉลิมชัย เดินทางไปส่งยังเรือนจำจังหวัดนนทบุรีเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ส่วน นายบุญกล้า คนขับรถนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาทำประวัติที่กองปราบปรามก่อนที่จะปล่อยตัวไปเนื่องจากไม่มีประวัติการกระทำความผิดและไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

14123539_10209831655166432_294555908_o

Advertisement

ด้าน นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า คณะกรรมการพักการลงโทษ ได้ยกเลิกการพักโทษของ นายเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ “ผู้พันตึ๋ง” ผู้ต้องหาเด็ดขาดในคดีฆาตกรรม นายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เมื่อปี 2544 หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ทำการจับกุม นายเฉลิมชัย ที่กระทำความผิดซ้ำในช่วงระหว่างการพักการลงโทษ

นายกอบเกียรติ กล่าวอีกว่า สำหรับ นายเฉลิมชัย ต้องไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ จนครบกำหนดเวลาคุมประพฤติในช่วงพักการลงโทษที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนนทบุรี ซึ่งขณะนี้ นายเฉลิมชัย ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนนทบุรี เพราะทำความผิดซ้ำในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี โดยเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติจังหวัดนนทุบรี โดยหลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของทางกรมราชทัณฑ์ว่าจะย้าย นายเฉลิมชัย ไปคุมขังเรือนจำอื่นหรือไม่

“หลังจากนี้ นายเฉลิมชัย ต้องกลับไปรับโทษตามระยะเวลาการพักโทษที่เหลืออยู่ประมาณ 2 ปี 9 เดือน ตามเดิม เนื่องจากทำผิดเงื่อนไขระหว่างการพักโทษ” รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีผู้เสียหาย นักธุรกิจเหมืองพลอย เข้าแจ้งความต่อสภ.เมืองจันทบุรี ว่าถูกหม่อมชื่อ ย่อ ช. และนายภรัญติ มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง ได้พากลุ่มชายฉกรรจ์ ประมาณ 10 คน ไปข่มขู่เพื่อผลประโยชน์จากการำเหมืองพลอย หากไม่จะไม่รับรองความปลอดภัย ทั้งนี้ สภ.เมืองจันทรบุรี ได้รายงานมายังกรมราชทัณฑ์ จากนั้นจึงนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณา ของคณะกรรมการพักโทษ โดยมีมติยกเลิกการคุมประพฤติ ผู้พันตึ๋ง ทั้งนี้ มีการรายงานการกระทำดังกล่าวของ “ผู้พันตึ๋ง” ไปยัง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม รับทราบ ซึ่งพล.อ.ไพบูลย์ได้สั่งการให้ติดตามตัว จากนั้นจึงมีการประสานเจ้าหน้าที่กองปราบปราม ไปเฝ้าและจับกุมตัว ได้เมื่อช่วงเช้า(25 ส.ค.)ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม นายเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง ผู้ถูกคุมความประพฤติ ได้เข้ารายงานตัวต่ออธิบดีกรมคุมประพฤติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image