เปิดสำนวนถอดถอน “สุกำพล” ปมล้วงลูกตั้ง ปลัดกห. “บิ๊กโอ๋” ยัน ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.กห – ข้อบังคับแต่งตั้งนายพลชัดทุกประการ ท้า สนช. หากสงสัยถาม “บิ๊กหรุ่น – บิ๊กเฟื่อง” ได้
เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 25 สิงหาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อดำเนินกระบวนการถอดถอน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกจากตำแหน่ง หลังถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด กรณีเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหม (กห.) โดยมิชอบ โดย น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวแถลงเปิดสำนวนว่า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2555 พล.อ.อ.สุกำพลได้นำพล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วย ผบ.ทบ.และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. เข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯเพื่อให้สนับสนุนพล.อ.ทนงศักดิ์ เป็นปลัด กห. จากนั้นในวันที่ 17 สิงหาคม 2555 เวลา 10.00 น. ได้มีการเสนอชื่อ พล.อ.ทนงศักดิ์ โดยไม่ได้มีการพิจารณาของคณะกรรมการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม แต่มาพิจารณาในตอนบ่าย และมีการรับรองชื่อในวันที่ 20 สิงหาคม 2555 ถือเป็นแทรกแซงและไม่ปฏิบัติตามมาตรา 25 วรรค 2 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 และข้อบังคับว่าด้วยการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม ในข้อที่ 11
นางสุภากล่าวต่อว่า เหตุนี้จึงทำให้ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกห.มีหนังสือทักท้วงไปว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงกลาโหมกำหนดไว้ เนื่องจาก พล.อ.ทนงศักดิ์ สังกัดกองทัพบก ตามข้อบังคับการแต่งตั้งของ กห.จากส่วนราชการหนึ่งไปอีกส่วนราชการหนึ่งต้องให้หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทำการตกลง แต่ปรากฏว่าไม่มีการตกลงใด ๆทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม กฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่มีอยู่มุ่งทำให้เกิดดุลภาพในเรื่องการบริหารกองทัพ ทั้งเรื่องการแต่งตั้งและห้ามเข้ามาล้วงลูกการแต่งตั้งโยกย้าย แต่การกระทำที่กล่าวมาข้างต้นชี้ให้เห็นเจตนาอย่างชัดเจนว่า พล.อ.อ.สุกำพลใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงในหน้าที่ประจำของข้าราชการ ซึ่งไม่ใช่นโยบาย เป็นการปฏิบัติที่ผิดหลักการ การบริหารที่ดี ย่อมทำให้รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศขาดความศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจใช้บังคับได้ผล เป็นการทำลายความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชน เป็นการทำลายระเบียบ มาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงสมควรถูกถอดถอนและตัดสิทธิ์การดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
จากนั้น พล.อ.อ.สุกำพล แถลงโต้แย้งว่า ตนขอชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณีที่การแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลในวาระตุลาคม 2555 โดยจะขอชี้แจงถึงการประชุมของคณะกรรมการระดับกระทรวงกลาโหมที่ตนเป็นประธาน โดยกห.ขอให้หน่วยที่ขึ้นตรงส่งรายชื่อนายทหารทั้งหมดที่จะโยกย้ายภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2555 แต่เมื่อถึงกำหนดไม่มีหน่วยไหนส่งรายชื่อมา แม้แต่สำนักงานปลัดกห.ก็ไม่มี ตนจึงต้องตัดสินใจ เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายในเดือนสิงหาคมน่าจะไม่เสร็จทันตามกำหนด ตนจึงให้ปลัด กห.นัดประชุมด้วยวาจาในวันที่ 17 สิงหาคม 2555 เวลา 10.00 น.อย่างเปิดเผยและรับทราบทั้งหมด เว้นแต่ ผบ.ทอ. เท่านั้นไปราชการต่างประเทศ จึงไม่ได้เข้าร่วมประชุม โดยแจ้งกับที่ประชุมว่า อยากหาข้อยุติในเรื่องปลัดกห.เพียงวาระเดียว เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจน และไม่ให้จดบันทึก เพราะมีวาระเดียวจำเอาไว้และป้องกับความลับรั่วออกไป เพราะรั่วทุกปี ดังนั้น ขอยืนยันว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมที่ครบองค์ประชุมแล้ว โดยตนเสนอชื่อ พล.อ.ทนงศักดิ์ ส่วน พล.อ.เสถียร เสนอ พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัด กห. และตนได้ถามที่ประชุมทีละคนว่า จะเลือกใคร ซึ่งมติที่ประชุมเห็นชอบ 4 ต่อ 1 เห็นชอบ พล.อ.ทนงศักดิ์ เป็นปลัดกห.ตามที่ตนเสนอ
“ผมยอมรับว่า ผมได้พูดว่า พล.อ.เสถียรส่งใครมา ตนจะเปลี่ยนทั้งหมดจริง แต่เป็นการพูดภายหลังจากมีมติ 4 ต่อ 1 แล้ว และ ผบ.สส. ผบ.ทบ. ผบ.ทร.ก็ยืนยันกับ ปปช.แล้วว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมที่ถูกต้องที่ชอบด้วยข้อบังคับทุกประการ แต่ปปช.กลับไม่ฟัง ไปฟังคนที่ไม่เข้าประชุม อีกทั้ง องค์ประชุมในวันนั้นมีทุกส่วนราชการของกห.มาร่วมประชุมแล้ว และที่ประชุมมีมติในเรื่องบุคคล อีกทั้ง รักษาปลัดกห.ในขณะนั้นได้มีหนังสือขอตัว พล.อ.ทนงศักดิ์ จาก ทบ.เพื่อโอนย้ายมาสังกัด สำนักงานปลัดกห.แล้วด้วย ดังนั้น การพิจารณาความเหมาะสมต้องให้เกียรติคณะกรรมการที่พิจารณา ซึ่งได้เลือกพล.อ.ทนงศักดิ์ เหมาะสม ผมเป็นฝ่ายการเมืองเพียงเสียงเดียวไม่สามารถไปสั่งใครได้ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องคณะกรรมการใช่เรื่องของผมคนเดียวส่วนที่กล่าวหาที่ว่าผมพา พล.อ.ทนงศักดิ์ กับ พล.อ.ประจิน ไปพบนายกฯ ก็เพราะท่านอยากรู้จัก ที่ผ่านมารู้จักแต่ 5 เสือไม่รู้จักเสือตัวเล็กๆเลย และก็ไม่ปิดบังอะไร นักข่าวเห็นหมด และ ทั้ง 2 คนให้การกับปปช.ว่า นายกฯก็ไม่ได้พูดเรื่องการแต่งตั้งเลย” พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ หากสนช.สงสัยว่าสิ่งที่ตนพูดจริงหรือไม่ ขอให้สอบถามกับ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ อดีตผบ.ทร ซึ่งเป็น สนช.ในขณะนี้ดูก็ได้ เพราะพล.ร.อ.สุรศักดิ์ นั่งประชุมร่วมกับตน หรือจะถาม พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ อดีต ผบ.ทอ.ที่เป็น สนช.อยู่ด้วยก็ได้
